นับถอยหลังศึกยูโร 2020 จะเริ่มต้นขึ้นแล้ว โดยเราจะมาวิเคราะห์ต่อกันที่กลุ่ม เอฟ ว่าแต่ละทีมในสายนี้จะไปได้ไกลแค่ไหน

เยอรมัน

โยอาคิม เลิฟ เตรียมก้าวลงจากตำแหน่ง บางคนอาจจะบอกว่าเขาตัดสินใจช้าไป 5 ปี แต่การทำงานของเขาจะจบลงในช่วงซัมเมอร์นี้ และเขาก็หวังว่าจะจบลงอย่างสวยงาม

เหตุการณ์ล่าสุด ทำให้ ประวัติของ เลิฟ แปดเปื้อน ด้วยผลงานที่ย่ำแย่นฟุตบอลโลก ที่รัสเซีย ได้เพิ่มความกดดันให้กับเขา และการแพ้ให้ สเปน 0-6 และ มาซิโดเนีย เหนือ 1-2 ก็ยิ่งแย่เข้าไปอีก

เพราะฉะนั้น เขาจะต้องพาทีมทำผลงานได้ดี ในยูโร แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่เป็นแบบนั้น เยอรมัน ยังมีนักเตะเก่งๆ มากมาย นักเตะอย่าง โจชัว คิมมิช, โทนี โครส, เลออน โกเรตซ์ก้า และ อิลกาย กุนโดกาย พวกเขามีกองกลางที่แน่นอนที่สุดในโลก ในขณะที่ โธมัส มุลเลอร์ และ แมตส์ ฮุมเมลส์ ที่หายไปกว่า สองปีก็กลับมาแล้ว

อย่างไรก็ตามเกมรับของพวกเขาน่ากังวลอย่างมาก เนื่องจาก มานูเอล นอยเออร์ ถือเป็นประตูมากฝีมือ ในขณะที่ลูกกลางอากาศอาจจะกลับมาหลอกหลอนพวกเขาอีกครั้ง และพวกเขาต้องอยู่ร่วมสายกับทั้งแชมป์โลก และ แชมป์ยุโรป

บางทีเป้าหมายสูงสุดของพวกเขาอาจจะไม่ใช่การเป็นแชมป์ แต่ในทางกลับกัน การประสบความสำเร็จ และวางรากฐานที่มั่นคง สำหรับการส่งต่อของเลิฟ คือสิ่งสำคัญ

ฝรั่งเศส

พวกเขามีขุมกำลังที่ดีที่สุดในตอนนี้ และพยายามเดินรอบตามยุคของ ซีเนดีน ซีดาน และ ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ ด้วยการชนะฟุตบอลโลก และต่อด้วยยูโร ในเวลานั้น

มันยากที่จะพูดว่าพวกเขาไม่มีโอกาสเป็นแชมป์ เพราะพวกเขามีพร้อมทุกตำแหน่ง และสามารถยืนระยะได้อีกยาว ในรอบคัดเลือกผลงานอขงพกวเขาชัดเจนมาก ชนะ 8 เสมอ 1 แพ้ 1 และทำให้พวกเขาได้เป็นแชมป์กลุ่ม พวกเขากำลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม และเข้ารอบชิงชนะเลิศ เนชันส์ลีกเมื่อเดือนตุลาคม

ทีมชุดนี้ค่อนข้างคล้ายกับชุดแชมป์โลก ที่รัสเซีย เมื่อสามปีก่อน ฮูโก้ โยริส ยังเป็นประตูและกัปตันทีม และยังยึดตำแหน่งได้ดี เช่นเดียวกับ ราฟาเอล วาราน และไม่แน่ใจว่า ซามูเอล อุมตีตี้ คู่ขาของเขาที่หายไปในปีที่ผ่านมา และปีนี้ก็ไมมีชื่อ แต่ยังมีทั้ง เพรสเนล คิมเพมเบ้, จูลส์ คุนเด้ และ เคลมองต์ ลองเลต์ ที่พร้อมจะก้าวขึ้นมาแทน

เอ็นโกโล่ ก็องเต กับ ปอล ป็อกบา มักจะยึดแดนกลางได้เสมอ และฟอร์มของอองตวน กรีซมันน์ในปี 2021 ก็ดีขึ้น นี่คือทีมระดับโลก และการกลับมาอย่างเซอร์ไพรส์ของ คาริม เบนเซม่า หลังจากหายไปนานถึง 5 ปี ทำให้ทีมแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิม

การเข้าไม่ถึงรอบชิงชนะเลิศ ถือว่าล้มเหลว ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ อดีตนักเตะและโค้ชมีโอกาสสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นโค้ชคนแรก ที่ได้ทั้งแชมป์ฟุตบอลโลก และ ยูโร

โปรตุเกส

แชมป์เก่า มีทีมที่แข็งแกร่งกว่าปี 2016

แม้จะมีตัวรุกมากความสามารถในทีมแต่โค้ชอย่างเฟร์นานโด ซานโตส ชอบเน้นที่ความแข็งแกร่ง และระมัดระวังเรื่องข้อผิดพลาด และนำโปรตุเกส คว้าแชมป์แรกเมื่อ 5 ปี ก่อน และคาดว่าแท็คติกของพวกเขาไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงมากนัก ยิ่งพิจารณาจากกลุ่มที่พวกเขาอยู่ และ พวกเขาก็ม๊โอกาสดี

การผ่านเข้ารอบสุดท้ายไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวล พวกเขาอาจจะจบอันดับ 2 ของกลุ่ม โดยมีแต้มมากกว่าเซอร์เบีย อันดับ 3 แค่ 3 คะแนน และพวกเขาก็พลาดแชมป์เนชันส์ ลีก หลังพ่ายต่อฝรั่งเศส และพวกเขาจะได้เจอกันอีกครั้ง

อย่างไรก็ตามตอนนี้ บรรดานักเตะของพวกเขาต่างทำผลงานได้ดีกับต้นสังกัด โดยเฉพาะในพรีเมียร์ลีก ทั้ง บรูโน ฟร์นานเดส, แบร์นาร์โด้ ซิลวา, ดีโอโก้ โจต้าและ ดิอาส ต่างก็มีฟอร์มที่ดี

ขณะเดียวกัน แม้ฟอร์มกับยูเวนตุส จะตกลงไปบ้าง แต่คริสเตียโน โรนัลโด้ ก็ยังเดินหน้า ในขณะที่ตัวสแตนด์บายก็ถือว่ามีพ้อม ทั้ง อันเดร ซิลวา จาก ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต, จู ปาลฮินญา จากสปอร์ติ้ง ลิสบอน ต่างก็ทำผลงานได้ดี ดิอาส น่าจะได้จับคู่กับ เปเป้ ในวัน 38 ปี ซึ่งน่าจะเป็นการรับใช้ชาติทัวร์นาเมนต์สุดท้าย

พวกเขาต้องการเป็นทีมที่สอง ต่อจากคู่ปรับอย่างสเปนในการป้องกันแชมป์ยุโรป และนั่นคือเป้าหมาย แต่ในความเป็นจริงพวกเขาน่าจะเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ เท่านั้น

ฮังการี

ฮังการี กำลังแฮปปี้ กับการได้เล่นในยูโร พวกเขามาได้ไกลขนาดนี้ เนื่องจากสุดยอดประตูในช่วงท้ายเกมของ โดมินิค โซบอสซ์ไล ในเกมเพลย์อฟฟกับ ไอซ์แลนด์ และทำให้พวกเขาคว้าชัยชนะ

ในช่วงเวลานั้น ถือเป็นช่วยเวลาแห่งความสุขของชาวฮังกาเรียน และทำให้ โดมินิค โซบอสซ์ไล คว้ารางวัลนักกีฬาแห่งนี้ แต่น่าเสียดาย ที่เขาจะพลาดโอกาสเล่นรายการนี้ เพราะเจ็บจนต้องพักตลอดปี 2021 และถือเป็นการสูญเสีย ครั้งใหญ่สำหรับ ฮังกาเรียน

อย่างไรก็ตาม พวกเขายังมี ปีเตอร์ กูลาสซี และวิลลี ออร์บาน จาก อาร์เบ ไลป์ซิก ก็ทำผลงานได้โดดเด่น และทำให้ทีมของพวกเขามีแนวรับที่ดีที่สุดใยบุนเดสลีกา ออร์บาน อาจจะไม่ค่อยได้รับเครดิต เท่ากับเพื่อนร่วมีม แต่เขาคือกองหลังทีทำให้ทุกคนมั่น ใจมากที่สุดในทีม

อดัม นากี, โรแลนด์ ซอลไล และ อดัม ซาไล คือตัวหลัก และ ฮังกาเรียนก็อยู่ในช่วงเวลาที่ดี และพวกเขาไม่แพ้ใครเลย และเป็นแชมป์กลุ่มของเนชันส์ลีก จนได้เลื่อนชั้นมาเล่นระดับ เอ

พวกเขาสร้างเซอร์ไพรส์ในยูโร 2016 ด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม โดยตอนนั้นพวกเขาอยู่ร่วมสายกับโปรตุเกสด้วย และในขณะที่พวกเขาต้องทำงานของตัวเองในซัมเมอร์นี้ พวกเขาก็มีโอกาสสร้างเซอร์ไพรส์ และ มีลุ้นเข้ารอบต่อไป ในพื้นที่อันดับ 3 ที่ดีที่สุด ด้วยชัยชนะสักนัดในกลุ่ม