นับถอยหลังศึกยูโร 2020 จะเริ่มต้นขึ้นแล้ว โดยเราจะมาวิเคราะห์ต่อกันที่กลุ่ม ดี ว่าแต่ละทีมในสายนี้จะไปได้ไกลแค่ไหน

โครเอเชีย

แม้จะมีความเปลี่ยนแปลงมากมาย นับตั้งแต่ ที่โครเอเชีย คว้าตำแหน่งรองแชมป์โลก เมื่อปี 2018 แต่แฟนบอลชาวโครแอต ต่างเชื่อมั่นว่าพวกเขาพร้อมที่จะลุ้นแชมป์ยูโรในปีนี้

ในทางกลับกัน ด้วยความคาดหวังที่สูง มันเป็นเรื่องธรรมดา แต่ไม่มีครั้งไหนเลยที่โครเอเชีย ถูกทองเป็นตัวเต็ง รวมถึงยูโร 2020 พวกเขาถูกมองมาเป็นม้ามืดเท่านั้น เหมือนกับมื่อ 3 ปีก่อน โดยตอนนี้ทีมกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน หลังตอนนี้เหลือกำลังหลักจากชุดรองแชมป์โลก เพียงแค่ 3 ราย เท่านั้น นักเตะอย่าง มานด์ซูคิช, ซูบาซิช และ ราคิติช ประกาศเลิกเล่นทีมชาาติ แต่ ซลัตโก้ ดาลิช ก็ทำงานกับนักเตะกลุ่มใหม่ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะดาวรุ่งมากพรสวรรค์

โครเอเชีย ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในรอบคัดเลือก โดยพวกเขาเป็นแชมป์กลุ่ม แม้จะแพ้ ทั้งเวลส์, ฮังการี และ อาเซอร์ไบจานก็ตาม

ดาลิช พยายามสร้างความสามัคคี และพลังของทีมอีกครั้งหลังจบบอลโลก และเขาหวังว่าแท็คติกของเขา ในการผสมผสานระหว่างนักเตะตัวเก๋ากับ ดาวรุ่งเข้ากับ เวทมนตร์ การบริหารคนของเขาจะได้ผล พิสูจน์ได้ว่าเป็นแท็คติก ที่สมบูรณ์แบบ สำหรับการเอาผลลัพธ์ที่พวกเขาต้องการ

โครเอเชีย ไม่ใช่ทีมเต็ง แต่พวกเขาก็ไม่ใช่ทีมรองบ่อนเช่นกัน ทำให้พวกเขาเหมาะกับการถูกมองว่าเป็นม้ามืด โครเอเชีย จำเป็นต้องรักษาสปิริตแบบในฟุตบอลโลกครั้งที่แล้ว เช่นเดียวกับต้องมีนักเตะมากกว่าคนเดียว ที่จะแบกทีมในทัวร์นาเมนต์นี้ ยิ่งมีประสบการณ์มากเท่าไหร่ ยิ่งต้องใส่ความรู้เข้าไป แต่นักเตะรุ่นใหม่มีความฉลาด และต้องมีความกระหายที่จะประสบความสำเร็จ และพวกเขาต้องพยายามลดข้อผิดพลาด เพราะไม่มีใครประมาท ทีมอย่างโครเอเชีย ที่ถูกจับตาอย่างแน่นอน และหากพวกเขาคว้าแชมป์แรกได้ จะสร้างอิทธิพลอย่างมากต่อประเทศ

อังกฤษ

เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ทีมชาติอังกฤษ มีโอกาสคว้าแชมป์ในรายการใหญ่ พวกเขาผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย ส่วนหนึงต้องขอบคุณโปรแกรมที่เป็นใจ และตอนนี้นักเตะดาวรุ่งก็อยู่ในจุดพีค กับสโมสรของพวกเขา

แกเร็ธ เซาธ์เกต มีดาวรุ่งมากพรสวรรค์หลายคน ซึ่งเล่นให้กับทีมระดับท็อปของยุโรป และเซาธ์เกต ก็มีคุณสมบัติที่ผสมผสานทุกอย่างให้ลงตัว และประสบความสำเร็จในการแข่งขันรายการใหญ่ เรามั่นใจว่า อังกฤษ จะทำผลงานได้ดีอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม เหมือนกับทัวร์นาเมนต์อื่นๆ ที่จะต้องเข้าทาง ไม่มีอะไรรับประกันความสำเร็จได้ พวกเขาควรจะผ่านรอบแบ่งกลุ่มให้ได้ เพื่อเข้าใกล้ความสำเจ อย่างไรก็ตามฟุตบอลมีหลายอย่างที่ยากจะคาดเดา ไม่มีใครรู้หรอกว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราเชื่อว่าหาก เซาธ์เกต เข้าถึงรอบตัดเชือกได้พวกเขาก็มีโอกาสที่จะเป็นแชมป์สูง

สกอตแลนด์

สกอตแลนด์ ผ่านเข้ารอบสุดท้ายในรายการใหญ่ได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1998 พวกเขาดีใจมากที่ได้กลับมาในครั้งนี้ เมื่อดูทีมจะเห็นว่าพวกเจาไม่ได้กดดันเท่าไหร่ อาจจะเป็นอังกฤษ กับ โครเอเชีย ที่กดดันความพวกเขา และเกมแรก พวกเขาจะได้เจอกับ สาธารณรัฐเช็ค ซึ่งสำคัญมาก พวกเขาต้องชนะเกมแรก หากพวกเขาต้องการผ่านรอบแบ่งกลุ่ม และเราเชื่อว่าพวกเขาทำได้ ในกลุ่มนี้ คุณอาจจะได้ที่สาม แต่มันก็ดีพอที่จะเข้ารอบ มันเป็นโอกาสที่ดี ก่อนจะลงเล่นสองเกมที่เหลือ พวกเขาเชื่อว่าพวกเขาเข้ารอบน็อคเอาท์ได้ เห็นได้ชัดว่าตอนนี้ มันง่ายขึ้นมาก เพียงคุณจบอันดับที 3 มันก็เพียงพอที่จะผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์ อย่างไรก็ตาม ในข้อดี คุณไม่มีทางรู้หรอกว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะมันต้องดูว่าผลกลุ่มอื่นเป็นอย่างไร

มันคงวิเศษมาก ถ้าพวกเขาเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายได้ และไม่มีชาวสกอตต์คนไหนบ่น อิจฉาความสำเร็จที่เวลส์ทำในยูโร 2016 ที่แสดงให้เห็นถึงความสามัคคี เป็นเวลานานแล้วที่สกอตแลนด์ ไม่ได้เล่นในรายการใหญ่ ดังนั้นการได้กลับมาครั้งนี้ จึงเป็นเรื่องที่วิเศษมาก

สาธารณรัฐเช็ก

ทีมชาติของพวกเขาไม่ค่อยได้รับความนิยมจากคนทั่วไปเท่าไหร่ในช่วงที่ผ่านมา เพราะแม้จะเล่นในบ้านเจอทีมระดับเยอรมัน หรือ สเปน พวกเขาก็ไม่สามารถทำให้แฟนบอลเข้ามาเต็มความจุได้

จากยุคของ มิชาล บิเลค 2009-2013 และ ต่อมาในยุคของ คาเรล ยาโรลิม 2016-18 พวกเขาเริ่มต้นด้วยการเสมอ 0-0 ในบ้านในเกมกับ อาเซอร์ไบจาน ที่น่าเบื่อ แม้ทีมจะมีความสมดุลที่ดี และมีระเบียบวินัย ตามแบบฉบับของทีม แต่ทีมนี้ ไมได้เข้าใกล้ทีมในชุดยูโร 2004 ที่เป็นที่ชื่นชอบของใครหลายคน

ในทางกลับกัน เช็คมีประวัติศาสตร์มากมาย เมื่อเจอกับความยากลำบาก หรือการดูถูก พวกเขาก็จะทำผลงานได้ดี อย่างในเนชันส์ ลีก พวกเขามีแต้มตามหลัง สกอตแลนด์ก่อน 4 แต้ม แต่หลังจากนั้นพวกเขาจบทัวร์นาเมนต์อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการชนะรวดทั้งสองนัด และไม่เสียประตูพร้อมคว้าสิทธิ์เลื่อนสู่ระดับเอ

สาธารณรัฐเช็ค เข้ามาเล่นในยูโรแต่ละครั้ง พวกเขาเริ่มต้นไม่ดีนักหลังปี 2012 พวกเขาแพ้ไป 1-4 แต่กลับพลิกเป็นแชมป์กลุ่มได้ พวกเขาสู้กับเบลเยียม และ อังกฤษ ได้อย่างสนุก และเก็บไปสี่คะแนน

นี่คือทีมที่มีกำลังหลักมาจาก สลาเวีย ปราก แทบยกชุด และสโมสรดังกล่าวกับทีมชาติก็เหมือนหนีกันไม่ออก โดยล่าสุดพวกเขาเพิ่งคว้าดับเบิ้ลแชมป์ ครั้งที่ 3 และไปถึงรอบก่อนรองชนะเลิศในยูโรป้า ลีก เป็นครั้งที่สองในรอบ 3 ปี หลัง ในขณะที่ทีมชาติ อย่าง บอริล, คูฟัล, คราล และ ซูเซ็ค ก็เริ่มได้รับการพูดถึง

เป้าหมายอย่างน้อยของพวกเขาคือการผ่านเข้ารอบแบ่งกลุ่ม