ศึกฟุตบอลลาลีกา สเปน เมื่อคืนวันที่ 13 มิ.ย. “ชาวเกาะ” เรอัล มายอร์ก้า เปิดเอสตาดิโอ เดอ ซอน โมอิซ ต้อนรับ”เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า หลังกลับมาลงเตะกันอีกครั้ง นับตั้งแต่หยุดพักหนีโควิด-19 ไปนานถึง 3 เดือน เกมนี้เจ้าบ้านของกุนซือ บิเซนเต้ โมเรโน่ จัดผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนาม นำทัพโดย ทาเคฟูสะ คูโบะ ดาวรุ่งทีมชาติญี่ปุ่น ส่วนทีมเยือนของกุนซือ กิเก้ เซเตียน ตัดสินใจดร็อป หลุยส์ ซัวเรซ แม้จะเพิ่งหายเจ็บก็ตาม แต่ส่ง ลิโอเนล เมสซี่ ที่ผ่านความฟิตออกสตาร์ทเป็นตัวจริง

เริ่มเกมเพียงแค่ 2 นาที บาร์เซโลน่า เป็นฝ่ายขึ้นนำแบบรวดเร็วจาก อาร์ตูโร่ วิดัล หลังจากนั้นทีมเยือนครองเกมเหนือกว่า และมาบวกเพิ่มได้อีกประตูจาก มาร์ติน เบรธเวท ในนาทีที่ 37 แม้เจ้าถิ่นจะมีโอกาสลุ้นยิงประตูตีไข่แตกอยู่บ้าง แต่ยังขาดความเฉียบขาดในจังหวะสุดท้าย จบ 45 นาทีแรก “เจ้าบุญทุ่ม” ออกนำไปก่อน 2-0 เข้าสู่ครึ่งหลัง “เจ้าบุญทุ่ม” เปลี่ยนตัว หลุยส์ ซัวเรซ ลงสนามเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือนที่ต้องหายหน้าหายตาจากการพักรักษาอาการบาดเจ็บ และยังคงครองบอลเหนือกว่าด้วย ก่อนจะยิงเพิ่มได้อีก 2 ลูกจาก ฆอร์ดี้ อัลบา ในนาทีที่ 79 และ ลิโอเนล เมสซี่ ในนาทีที่ 90 หมดเวลาการแข่งขัน บาร์ซ่า เป็นฝ่ายชนะ 4-0

ทำให้ เรอัล มายอร์ก้า ยังคงอยู่ในโซนตกชั้นอันดับ 18 แข่ง 28 นัด มี 25 คะแนน ส่วน “เจ้าบุญทุ่ม” ยังคงรั้งจ่าฝููงต่อไป แข่ง 28 นัด มี 61 แต้ม ขยับหนี “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ทีมอันดับ 2 ที่แข่งน้อยกกว่าหนึ่งเกมเพิ่มเป็น 5 คะแนน