เริ่มที่ บุนเดสลีกา

การขีดเขียนชะตากรรมของ แวร์เดอร์ เบรเมน

สโมสรที่เล่นในระดับบุนเดสลีกา มาอย่างยาวนานที่สุด อย่าง แวร์เดอร์ เบรเมน จะต้องทำการแข่งขันฟุตบอล เพลย์ออฟ หนีตกชั้น ซึ่งมันขึ้นอยู่กับพวกเขาในการกำหนดชะตากรรมของตัวเอง

ชัยชนะเหนือโคโลญจน์ 6-1 ในแมตช์สุดท้าย ทำให้พวกเขารอดชีวิตแบบหวุดหวิด แต่ก็ต้องไปตัดสินกับทีมอันดับ 3 ของลีกาสอง อย่าง ไฮเดนไฮม์ ในการเพลย์ออฟ 2 นัด สัปดาห์นี้

“ตอนนี้มันอยู่ในมือของเราเอง” โบเด้ กล่าว “เรามั่นใจแต่ต้องไม่ประมาท เพราะเรารู้ว่าในฤดูกาลนี้ เรามักจะฟอร์มหลุดหลังจากที่ประสบความสำเร็จ”

ในเกมลีก 3 เกมหลัง นกนางดวลคว้าชัยชนะได้เพียงแค่เกมเดียว

“โดยรวมแล้วมันถือว่าเป็นฤดูกาลที่แย่ เราจะต้องตรวจเช็ค หารายละเอียด เพื่อดูว่าเราจะดีขึ้นได้อย่างไรในอนาคต” โบเด้ กล่าว

ในปี 1980 อดีตแชมป์บุนเดสลีกา 4 สมัย ตกชั้นไปเพียงครั้งเดียวเท่านั้น และใช้เวลาแค่ปีเดียวเท่านั้นในการกลับมาเล่นลีกสูงสุด นั่นทำให้พวกเขาเป็นทีมที่เล่นในบุนเดสลีกา ยาวนานที่สุดเป็นรองแค่บาเยิร์น มิวนิค ทีมเดียวที่ไม่เคยตกชั้นเลย

ปัญหาของฮัมบูร์ก

ฮัมบูร์ก ทีมจากภาคเหนือ ต้องเริ่มพูดคุยกันอีกครั้ง หลังพลาดโอกาสเลื่อนชั้นสู่บุนเดสลีกาเป็นฤดูกาลที่สอง หลังจากที่ต้องการแค่คะแนนเดียว แต่ในนัดสุดท้าย พวกเขากลับพลาดท่า พ่ายต่อ แซนเฮาเซน ไป 1-5

มาร์เซลล์ แยนเซน ประธานสโมสร ได้อ้างว่าสาเหตุที่พลาด เป็นเพราะการไม่มีแฟนบอล และฟอร์มที่ไม่ดีของทีมหลังกลับมาแข่งขันอีกครั้ง ในช่วงเดือนพฤษภาคม จนทำให้ทีมพลาดโอกาสการเลื่อนชั้น ซึ่งถือเป็นความผิดหวังอันใหญ่หลวง

ฮัมบูร์ก เป็นทีมเดียวในบุนเดสลีกา ที่อยู่ในลีกสูงสุดมาตลอด นับตั้งแต่ปี 1963 จนกระทั่งพวกเขาต้องตกชั้นเมื่อ 2 ปี ก่อน

อนาคตของ โค้ช ดีเตอร์ เฮคกิ้ง ก็ไม่แน่นอน หลังอดีตแชมป์ยุโรป และ เยอรมัน จะต้องอยู่ดิวิชั่น 2 เป็นปีที่ 3

“ถ้าเราพูดอะไรออกไปตอนนี้ มันก็จะมีแต่อารมณ์ และมันคงเป็นเรื่องที่ผิด” เฮคกิ้ง กล่าว

สถิติของ เลวานดอฟสกี้

หลังการพยายามเป็นดาวซัลโวสูงสุด โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ กองหน้าบาเยิร์น มิวนิค ซึ่งได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของบุนเดสลีกาไปครอง ฤดูกาลนี้ หัวหอกชาวโปแลนด์ เริ่มต้นด้วยการยิงติดต่อกัน 11 นัดติดต่อกัน และไม่พลาดเลย โดยบทสรุป 34 นัด เขายิงไป 34 ประตู และเป็นอันดับสอง รองเพียงแค่ตำนานกองหน้าบาเยิร์น อย่าง เกิร์ด มุลเลอร์ ที่ทำไว้ 40 ประตู ในปี 1972

เมื่อบาเยิร์น คว้าแชมป์บุนเดสลีกา สมัยที่ 8ติดต่อกัน และ เลวานดอฟสกี้ กลายเป็นดาวซัลโวของลีกเป็นสมัยที่ 5

“34 ประตู ในฤดูกาลเป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อ” คาร์ล ไฮนส์ รุมเมนิกเก้ ซีอีโอ บาเยิร์น กล่าว “โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ คือกองหน้าที่ดีที่สุดในโลก”

ต่อเนื่องที่ในพรีเมียร์ลีก และ เอฟเอ คัพ

ชัยชนะของปีศาจแดง เหนือ นอริช

ชัยชนะในช่วงท้ายของการต่อเวลาพิเศษของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่มีเหนือ นอริช ซิตี้ 2-1 ช่วยให้พวกเขาผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ เอฟเอ คัพ ไปพบกับ เชลซี ซึ่งจะต้องมีทีมใดทีมหนึ่ง ต้องจบเส้นทางในรอบนี้

ชัยชนะนัดดังกล่าว ทำให้ทีมไม่แพ้ใครมา 14 นัดติดต่อกันในทุกรายการ ฟอร์มการเล่นขุมกำลังโอเล่ กุนนาร์ โซลชา แสดงให้เห็นว่ายังต้องปรับอีกหลายตำแหน่ง

เป้าหมายหลักของ แมนฯยูไนเต็ด ก็คือการเป็นท็อปโฟร์ ในพรีเมียร์ลีก และต้องแสดงให้เห็นว่าพวกเขาเป็น 6 ทีมใหญ่

ซึ่งทีมชุดสอง ก็ถือเป็นส่วนสำคัญ นักเตะอย่าง ดีเอโก้ ดาโลต์, เจสซี ลินการ์ด, ฆวน มาต้า และ เอริค ไบยี่ ทำผลงานได้ไม่ค่อยดีนัก และทำให้ โซลชา มีทางเลือกน้อย และแสดงให้เห็นว่า พวกเขาจำเป็นต้องเสริมทีม เพื่อให้มีทางเลือกมากกว่านี้

อนาคตของ ฌอน ไดซ์

หลังจากที่ออกมาตำหนิ ประธานสโมสร และ บอร์ดบริหาร ที่ไม่ยอมต่อสัญญานักเตะที่กำลังจะหมดลง และปฏิเสธ การสนับสนุนเขาในการเสริมทัพในตลาดนักเตะ ฌอน ไดซ์ ผู้จัดการทีมเบิร์นลีย์ เริ่มมีอนาคตที่ไม่แน่นอน และถูกคาดเดาอย่างมากในสื่ออังกฤษ

ความสัมพันธ์ของ ไดซ์ กับ ไมค์ การ์ลิค ประธานสโมสร กำลังอยู่ในความตึงเครียด แต่มันคงจะเร็วเกินไป หากจะสรุปว่าเขากำลังจะมองหาทีมใหม่

ขณะนี้ ไม่มีปลายทางที่ชัดเจนสำหรับ ไดซ์ และเป็นไปได้ยาก ที่การ์ลิค จะตัดปัญหา และไล่ผู้จัดการทีม ที่พาทีมประสบความสำเร็จในการรักษาตัวเองให้อยู่ตรงกลางตารางออกไป

หากไดว์ ต้องการพัก หรือรองานที่เหมาะสม มันคงจะเกิดขึ้นในช่วงฤดูกาลหน้า มันคงไม่ใช่เรื่องน่าตกใจ หากเขาจะอยู่ต่อไป แม้ความสัมพันธ์กับทีมตอนนี้จะไม่โอเคก็ตาม

การตัดสินใจของศาล กับ ปัญหาใหญ่ของแมนฯซิตี้

หลังชัยชนะเหนือ นิวคาสเซิล เมื่อวันอาทิตย์ ในศึกเอฟเอ คัพ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของ เป็ป กวาร์ดิโอลา ผู้จัดการทีม บอกว่า แม้พวกเขาจะสูญเสียแชมป์ลีกไปให้ลิเวอร์พูล แต่เขายังคงโฟกัสที่จะคว้า 3 แชมป์ อันประกอบไปด้วย ลีก คัพ, เอฟเอ คัพ และแชมเปี้ยนส์ลีก

ถึงกระนั้นทีมก็ยังต้องลุ้นว่าจะถูกแบนจากเกมยุโรปเป็น เวลา 2 ปี หรือไม่ ซึ่งตอนนี้ กำลังรอผลจาก ศาลอนุญาโตตุลาการกีฬา ซึ่งจะออกมาภายใน 2 สัปดาห์ข้างหน้า

อิงค์ส กับการทำประตูอย่างต่อเนื่อง

แดนนี อิงค์ส ยิงไป 2 ประตู ในเกมเมื่อวันอาทิตย์ พร้อมช่วยให้เซาแธมป์ตัน เอาชนะ วัตฟอร์ด 3-1 และทำให้เขายิงไปแล้ว 18 ประตู ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ตามหลัง เจมี วาร์ดี้ แค่ประตูเดียว

และที่ผ่านมาก็มีคนมากมายที่สนับสนุนให้ อิงค์ส ติดทีมชาติ ก่อนที่จะเกิดการล็อคดาวน์ขึ้น แต่การยกเลิกเกมกระชับมิตร ที่อังกฤษ จะต้องเจอกับ อิตาลี และ เดนมาร์ก ทำให้สุดท้ายโอกาสกับทีมชาติยังไม่มี

การเลื่อนการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2020 อออกไป ทำให้อิงค์ส ต้องคิดเยอะขึ้น เหมือนกับที่ผ่านมา เพราะมีดาวรุ่งมากมาย อาทิ แทมมี อบราฮัม และ โดมินิค คัลเวิร์ต เลวิน ก็อยู่ในจุดที่ดีกว่า ในตอนนี้ ตัวเก๋าอย่าง แฮร์รี เคน และ มาร์คัส แรชฟอร์ด มีอาการบาดเจ็บ แต่ตอนนี้พวกเขาก็กลับมาลงสนามได้แล้ว

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่กลับมารีสตาร์ท อิงค์ส ยังยิงประตูได้ต่อเนื่องในฟุตบอลลีก เขามีทั้งความเฉียบคม และการทำประตูที่หลากหลาย บวกกับความต่อเนื่อง น่าจะทำให้ได้รับความสนใจจาก แกเร็ธ เซาธ์เกต ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ อย่างแน่นอน

ต่อเนื่องกับฟุตบอลสเปน

บอลอยู่ในมือของ มาดริด อีกครั้ง

เรอัล มาดริด ต้องออกแนงเหนื่อย แต่ที่สนาม อาร์ซีดีอี สเตเดียม แม้พวกเขาจะชนะได้แค่ 1-0 เหนื่อทีมจากท้ายตารางอย่าง เอสปันญอล แต่มันก็สำคัญมาก

เพราะชัยชนะของพวกเขา ทำให้มีแต้มนำ บาร์เซโลนา 2 คะแนน ที่ทำแต้มหล่นจากการลงสนามกับ เซลต้า บีโก้ ก่อนพวกเขา

เจ้านกแก้ว ช่วยกัน และประสานงานกันได้ดีมากในคืนดังกล่าวและไม่ยอมให้ทีมเยือนสร้างโอกาสมากมาย แต่ในที่สุดพวกเขาก็โชว์ประสิทธิภาพดังกล่าวออกมา

พระเอกชื่อ เบนเซม่า

กองหน้าเฟรนช์แมน พยายามสลัดเงาของตัวเองออกไป หลังการย้ายทีมของคริสเตียโน โรนัลโด้ ในการเป็นผู้ทำประตูตัวหลักของของทีม หลังทำได้ไม่ดีเท่าไหร่ในฤดูกาล 2018/19 เขากลายเป็นความหวังของ โลส บลังโกส และตอนนี้เขาถือเป็นกำลังหลักในการพาทีมลุ้นแชมป์

ตอนนี้มันเป็นช่วงเวลาของ เบนเซม่า ในการร่ายมนตร์ หลังส่งลูกสุดท้ายให้กับ คาเซมิโล ยิงประตูเข้าไป โดยเขาได้พยายามดึงตัวประกบ ก่อนตกส้นผ่านหว่างขาคู่ต่อสู้ ไปให้ คาเซมิโร่ ซัดประตูอย่างสวยงาม นี่ถือเป็นการโชว์ระดับที่สวยงามที่คาริม เบนเซมา ได้แสดงออกมา จากการตอกส้นเข้าไปพื้นที่สำคัญให้ คาเซมิโร่ และ กองกลางชาวบราซิเลียน ก็ไม่ทำให้ผิดหวังยิงเข้าประตูไป

บาร์เซโลนา กับวิกฤตครั้งใหญ่

ฟอร์มการเล่นที่ย่ำแย่ของ บาร์เซโลนา ที่บาไลโดส ในการพบกับ เซลตา บีโก้ ทำให้พวกเขาโยนความได้เปรียบให้ทีมเรอัล มาดริดของซีเนดีน ซีดาน ในการเจอกับ เอสปันญอล และทำให้พวกเขาต้องมีแต้มตามหลัง 2 คะแนนในตอนนี้

โดยตอนนี้เหลือการแข่งขันอีกเพียงแค่ 6 เกมเท่านั้น และ การที่มีแต้มมากกว่า 2 คะแนนของ เรอัล มาดริด ทำให้พวกเขามีโอกาสสูงกว่า ในการคว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 34 เพราะบาร์ซา ยังมีเกมที่ยากรออยู่อีกถึง 2 นัด ซึ่งมันคาดเดาได้อย่างมาก

บาร์เซโลนา จะต้อง เตรียมตัวเจอกับ แอตเลติโก มาดิด ที่คัมป์ นู ซึ่งถือเป็นเกมที่ยากที่สุดของเซเตียน ใน 6 เกมที่เหลือ เพราะแม้ทีมของ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ อาจจะไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดีที่ โดยเฉพาะเกมรุก แต่มันคงโง่มากหากจะมองข้ามทีมของซิเมโอเน่ ที่เคยเอาชนะ ลิเวอร์พูล ทั้งไปและกลับในแชมเปี้ยนส์ลีก

ปิดท้ายที่อิตาลี

ยูเวนตุสกับการนำเป็นจ่าฝูงของลีก

เช่นเดียวกับชัยชนะนัดแรกหลังกลับมาแข่งขันกันอีกครั้งของเซเรีย อา ยูเวนตุส กลับมาทำประตูได้อีกครั้ง จากเท้าซ้ายของเปาโล ดีบาล่า และ จุดโทษของ คริสเตียโน โรนัลโด้ ที่ช่วยให้พวกเขาเอาชนะ เลชเช่ 4-0 ที่ อลิอันซ์ สเตเดียม ผสมผสานกับความผิดพลาดของ ลาซิโอ ที่หลุดแพ้ อตาลันต้า ในเกมวันพุธ ทำให้ยูเวนตุส มีโอกาสคว้าแชมป์อิตาลีเป็นสมัยที่ 8 หลังตอนนี้ มีแต้มนำถึง 7 คะแนน และมีโอกาสสูงขึ้น ถ้าทีมของ ซิโมเน่ อินซากี้ พลาดอีกในการเจอกับ ฟิออเรนตินา ในช่วงสุดสัปดาห์

หลุยส์ อัลแบร์โต้ กับ ลาซิโอ ในการเพิ่มโอกาสการลุ้นแชมป์

เขายังไม่ตาย พาดหัวข่าวของ คอร์ริเอเล่ เดลโล สปอร์ต ในวันอาทิตย์ แสดงออกให้เห็นว่าพวกเขาเป็นเหมือนกับสัตว์ประหลาอย่าง แฟรงเกนสไตน์ เพราะดูเหมือนการลุ้นแชมป์จะจบลงอยู่แล้ว แต่มันก็ยังไม่จบ

เพราะจอมเทคนิคชาวสแปนิช ยังทำให้ทีมอยู่ในเส้นทาง หลุยส์ อัลแบร์โต้ หรือ อิล มาโก้ ที่เรารู้จัก ซัดประตูชัยให้ ลาซิโอ ที่ตามหลัง ฟิออเรนตินามาก่อน พลิกกลับมาเอาชนะ และกดดันยูเวนตุส เหลือแค่ 4 คะแนนเท่าเดิม

บทความโดย Sportthai.net