เพราะไม่สามารถเข้าป้ายแชมป์กลุ่มในเกมรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2022 โซนยุโรป ทำให้ “อัซซูรี่” อิตาลี แชมป์ยูโร 2020 และ “ฝอยทอง” โปรตุเกส ต้องไปลุ้นแย่งสิทธิ์ผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายจากเกมรอบคัดเลือก รอบ 2 หรือในรอบเพลย์ออฟกับอีก 10 ชาติลูกหนังเพื่อชิง 3 โควต้าที่เหลืออยู่กันต่อไป
ทั้งนี้ โซนยุโรป ได้โควตาไปโชว์ฝีเท้าในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย ที่ประเทศกาตาร์ ช่วงปลายปีหน้าทั้งหมด 13 ทีม และได้ 10 ทีมแชมป์กลุ่มจากเกมรอบคัดเลือกโซนยุโรปที่ได้สิทธิ์ผ่านเข้าเล่นรอบสุดท้ายแบบอัตโนมัติเรียบร้อยแล้ว
สำหรับ 12 ชาติลูกหนังในโซนยุโรปที่จะต้องไปเตะรอบเพลย์ออฟเพื่อชิงตั๋วไปเล่นรอบสุดท้ายที่เหลืออีก 3 ใบ แบ่งออกเป็น 10 ทีมรองแชมป์กลุ่มต่างๆ ดังนี้เลย
แชมป์กลุ่ม เอ : โปรตุเกส
แชมป์กลุ่ม บี : สวีเดน
แชมป์กลุ่ม ซี : อิตาลี
แชมป์กลุ่ม ดี : ยูเครน
แชมป์กลุ่ม อี : เวลส์
แชมป์กลุ่ม เอฟ : สกอตแลนด์
แชมป์กลุ่ม จี : ตุรกี
แชมป์กลุ่ม เอช : รัสเซีย
แชมป์กลุ่ม ไอ : โปแลนด์
แชมป์กลุ่ม เจ : มาซิโดเนียเหนือ
ส่วนอีก 2 ทีมเป็นโควตาจากแชมป์กลุ่มในศึกยูฟ่า เนชั่นส์ลีก นั่นก็คือ ออสเตรีย กับ สาธารณรัฐเช็ก (เวลส์)
ทั้งนี้ สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือ ยูฟ่า จะมีการจับสลากแบ่งสายรอบเพลย์ออฟ ที่เมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในวันที่ 26 พ.ย.นี้ โดยแบ่งออกเป็น 2 โถ และให้โถที่ 1 เป็นโถของทีมวางดังต่อไปนี้เลย
โถ 1 : โปรตุเกส, สกอตแลนด์, อิตาลี, รัสเซีย, สวีเดน, เวลส์
โถ 2 : ตุรกี, โปแลนด์, มาซิโดเนียเหนือ, ยูเครน, ออสเตรีย, สาธารณรัฐเช็ก
สำหรับกฎกติกาของ ศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบเพลย์ออฟ โซนยุโรป จะแบ่งออกเป็น 3 สายๆ ละ 4 ทีม และประกบคู่เตะกันแบบน็อคเอาท์แพ้ตกรอบ โดยทีมชนะเลิศของทั้ง 3 สายจะได้ผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายตามโควตาที่เหลืออยู่นั่นเอง ซึ่งจะแข่งขันกันในช่วงปลายเดือน มี.ค.ปีหน้า