แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบกับ แอลเอเอสเค ลินซ์

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับมาเล่นในยูโรป้า ลีก อีกครั้ง ในคืนวันพุธนี้ โดยจะได้เล่นในบ้าน รอบ 16 ทีมสุดท้ายพบกับ แอลเอเอสเค ลินซ

ปีศาจแดง เอาชนะชนะมาได้ก่อนในรอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วยสกอร์ 5-0 ในเลกแรก เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และ พวกเขาสามารถมองข้ามไปถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายได้เลย เว้นเสียแต่ว่าเกมนี้ เขาจะพ่าย 6 ประตู ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

หลังได้พักไป 3 เดือน ในมิถุนายนที่ผ่านมา เป้าหมายของโอเล่ กุนนาร์ โซลชา ชัดเจนว่า คือการได้ไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาลหน้า และคว้าแชมป์มาครองให้ได้สักรายการ

ต้องขอบคุณการจบอันดับ 3 ในพรีเมียร์ลีก หลังจากที่เกมสุดท้าย พวกเขาเอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ ไป 2-0 นั่นทำให้เป้าหมายแรกของพวกเขาบรรลุไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ฟอร์มของ แมนฯยู ในปีนี้ เปลี่ยนไป ทันทีที่ บรูโน แฟร์นานเดส ย้ายมาร่วมทีม แม้ว่าพวกเขาจะโดนเชลซี เขี่ยตกรอบในเอฟเอ คัพ แต่พวกเขายังมีโอกาส ในยูโรป้า ลีก และหากทำได้ จะถือเป็นแชมป์สมัยที่ 2 ในรอบ 3 ปี และทำให้ฤดูกาลนี้ถือว่าประสบความสำเร็จพอสมควรสำหรับการได้คุมทีมเต็มตัวของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา

ปีศาจแดง สามารถมองข้ามไปถึง รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้เลย โดยจะต้องรอพบผู้ชนะ ระหว่าง อิสตันบูล บาซัคเซฮีร์ หรือ โคเปนเฮเก้น

นั่นเป็นเพราะ 5 ประตู ที่เขาได้มาในเกมแรก ในการบุกไปเยือนที่ออสเตรีย ซึ่งมันเกิดขึ้นเกือบ 5 เดือนก่อนที่ ลินเซอร์ สตาดิโอเน

มันคือชัยชนะด้วยสกอร์ห่างมากที่สุด ของพวกเขาในบอลยุโรป นับตั้งแต่การเจอกับ อันเดอร์เลชท์ ที่พวกเขาเคยชนะในรอบน็อคเอาท์ มาด้วยสกอร์รวม 12-0

โดย แมนฯยู มีสิทธิ์ทำลายสถิตินั้น กับ แอลเอเอสเค เพราะในเลกแรก แอลเอเอสเค แสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่ใช่คู่ต่อกร

หลังจากกลับมาลงสนาม ในช่วงเดือนมิถุนายน ทีมจากออสเตรีย ชนะเกมลีก แค่ 2 นัด จาก 10 เกม และแพ้ 3 นัดสุดท้าย จนจบแค่อันดับ 4 แสดงให้เห็นว่าฟอร์มการเล่นของพวกเขายังไม่มีการปรับปรุง

ในความเป็นจริง เฮดโค้ชของพวกเขา วาเลเรียง อิสมาเอล เพิ่งถูกไล่ออกไป และนี่ถือเป็นเกมระดับสูงของโค้ชคนใหม่ อย่าง โดมินิค ธัลแฮมเมอร์ ในการบุกมาเยือน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในวันพุธนี้

แอลเอเอสเค เสียประตูเยอะมากในเกมแรก เท่ากับที่พวกเขาเสียมาตลอด 8 นัดแรกของการแข่งขันฤดูกาลนี้ และพวกเขาอาจจะโดนยิงเพิ่มอีกในเกมกลางสัปดาห์

ความพร้อมของทั้งสองทีม

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีเวลาพักแค่ 10 วันหลังเสร็จสิ้นเกมกับเลสเตอร์ แต่ในเกมวันพุธนี้ โซลชา ไม่น่าจะส่งตัวหลักลงสนามทั้งหมด

ฆวน มาต้า, เจสซี ลินการ์ด, ดาเนียล เจมส์, เฟร็ด และ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ น่าจะได้โอกาสในเกมนี้ หลังถูกมองงข้ามมาตลอดในการเป็นตัวจริงนับตั้งแต่ รีสตาร์ทช่วงเดือนมิถุนายน

เมสัน กรีนวูด ยิงประตูได้มากมายในเกมยูโรป้า ลีก มากกว่านักเตะคนอื่นๆในทีมแมนฯยู หลังซัดไปทั้งหมด 5 ประตูจาก การยิงเข้ากรอบ 8 ครั้ง แต่เขาน่าจะเป็นอีกคนที่ถูกพักในเกมนี้

ขณะเดียวกัน นักเตะอย่าง เจมส์ และ ลินการ์ด น่าจะได้โอกาส เช่นเดียวกับ โอเดียน อิกาโล่ ผู้ยิงประตูเปิดซิงในเกมเลกแรก น่าจะถูกวางเป็นศูนย์หน้าตัวเป้า

ด้าน แอลเอเอสเค นั้น ธัลแฮมเมอร์ น่าจะรู้ตั้งแต่เดือนมีนาคม แล้วว่า ทีมจำเป็นต้องปรับปรุงมากมาย และคาดว่าเขาน่าจะเปลี่ยนเปลี่ยนแปลงผู้เล่นจากเกมแรกมากพอสมควร เช่นเดียวกับ เกมบุนเดสลีกา โดย แอลเอเอสเค แพ้ เรดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก มา 0-3 และพวกเขาอาจจะยึดตัวจริงจากเกมนั้น ในการเดินทางมาโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

คาดการณ์ 11 ตัวจริง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

โรเมโร, ดาโลต์, ไบยี, ลินเดเลิฟ, วิลเลียมส์, แม็คโทมิเนย์, เฟร็ด, เจมส์, มาต้า, ลินการ์ด, อิกาโล่

คาดการณ์ 11 ตัวริง แอลเอเอสเค ลินซ์

ชลาเกอร์, ไวซิงเกอร์, เธาเนอร์, อันดราเด้, รานฟ์ต, ฮอลแลนด์, มิโชร์ล, เรนเนอร์, เธตเธห์, ไฟรเซอร์, คลอสส์

คาดการณ์ผล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ แอลเอเอสเค ลินซ์ 30

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีประสบการณ์ในบอลยุโรป มากกว่า ทีมจากออสเตรีย และแทบไม่ค่อยได้สะกดคำว่าแพ้ ยามเจอกับทีมจากลีกรอง โดยพวกเขาทำไปถึง 22 ประตู และเสียไปเพียงแค่ลูกเดียว โดย 5 ประตู นั้นก็มาจากเกมแรก และ เราน่าจะเห็นพวกเขาทำประตูเพิ่มได้ แม้ทีมจะมีการโรเตชั่น ก็ตาม

โคเปนเฮเก้น พบกับ อิสตันบูล บาซัคเซฮีร์

ในเลกที่สองของการแข่งขันฟุตบอลยูโรป้า ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย โคเปนเฮเก้น จะต้องพบกับ อิสตันบูล บาซัคเซฮีร์ หลังจากที่นัดแรก พ่ายมาก่อน 1-0 ที่ตุรกี เมื่อช่วงต้นปีนี้

ทีมที่ชนะคู่นี้ น่าจะได้ผ่านเข้าไปพบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย แต่มีบางคู่ที่จะได้เตะรอบ 16 ทีมสุดท้าย แบบนัดเดียวจบ แต่การพบกันระหว่าง โคเปนเฮเก้น และ บาซัคเซฮีร์ จะถือเป็นเลกที่ 2 หลังจากเจอกันมาเมื่อเดือนมีนาคม

จุดโทษในช่วงท้ายเกมของ เอดิน วิสก้า ทำให้ บาซัคเซฮีร์ กุมความได้เปรียบก่อนเดินทางไปเดนมาร์ก และหลังจากที่คว้าแชมป์เตอร์กิช ลีก มาครองเมื่อเดือนก่อน ตอนนี้พวกเขาก็ได้โฟกัสมาที่การแข่งขันรายการนี้อย่างเต็มที่

การเก็บได้ 16 แต้ม จาก 8 เกม นับตั้งแต่หมดล็อคดาวน์ เพียงพอที่จะทำให้ทีมของ โอคาน บูรุค มีแต้มเหนือ แทร็ปซอนสปอร์ รองแชมป์ 4 แต้ม

ด้วยความสำเร็จดังกล่าวทำให้ฤดูกาลหน้าพวกเขาจะได้ไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีก ทำให้เกมนี้พวกเขาไม่มีความกดดันอะไร และถ้าพวกเขาไม่แพ้ พวกเขาก็จะผ่านเข้ารอบต่อไป

อดีตกองหน้าเชลซี อย่าง เดมบ้า บา กำลังฟอร์มร้อนแรง หลังยิงไป 3 ประตู จาก 5 เกมหลังสุด

ขณะที่ โคเปนเฮเก้น พวกเขาต้องลงเล่นเกมนี้ หลังจากที่พลาดแชมป์ลีก ด้วยการมีแต้มตามหลัง มิดทิลแลนด์ 14 คะแนน

ในขณะเดียวกัน สตาเล่ โซลบัคเค่น สามารถพาทีมเก็บชัยชนะได้ 2 แมตช์หลังสุด หลังจากที่ก่อนหน้านั้น 6 เกม พวกเขาไม่ชนะใครเลย

ด้วยสถานะตำนานของสโมสร เจ้าตัวไม่ค่อยได้รับความกดดันเท่าไหร่ แต่อย่างที่ทราบ การแข่งขันรายการนี้ มันจะแสดงให้เห็นว่าเขามีพัฒนามากแค่ไหน เพราะที่ผ่านมาโคเปนเฮเก้น ไม่เคยเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายของฟุตบอลยุโรปเลย และพวกเขาต้องพยายามทำเต็มที่เพื่อทำสถิติให้ดีขึ้น

ความพร้อมของทั้งสองทีม

บูรูค จำเป็นต้องตัดสินใจ หลังจากที่ มาร์ติน สเคอร์เทล เป็นแค่ตัวสำรองในเกมนัดสุดท้าย ขณะที่ กาแอล กลิชี ก็ทำไป 2 แอสซิสต์ ก็น่าจะได้เป็นตัวจริงในเกมนี้

โซลบัคเคน น่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงตัวหลักมากนัก จากเกมที่ทีมเอาชนะ นอร์ดเยลลันด์ เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา

นั่นะทำให้ ดาเม่ เอ็นดอย ที่เป็นตัวจริงมาตลอดในยูโรป้า ลีก หลุดไปเป็นตัวสำรองในเกมนี้

คาดการณ์ 11 ตัวจริง โคเปนเฮเก้น

จอห์นส์สัน, บาเรล่า, ปาปาจิอันโนปูลอส, เนลส์สัน, เบงต์สสัน, เซก้า, ธอมเซน, สตาเก้, วินด์, ดารามีย์, คอฟมันน์

คาดการณ์ 11 ตัวจริง อิสตันบูล

บาบากัน, ไซคาร่า, โทปัล, ปอนซ์, กลิชี, เอปูรีนู, คาห์เวซี, วิสก้า, อเล็กซิช, คริเวลลี, บา

คาดการณ์ผล โคเปนเฮเก้น แพ้ อิสตันบูล บาซัคเซฮีร์ 1-2

ในขณะที่ โคเปนเฮเก้น มักจะโชว์ฟอร์มในบ้านของตัวเองได้ดี แต่การต้องเจอกับ บาซัคเซฮีร์ ในสนามปิด น่าจะทำให้ทีมเยือนเล่นได้ง่ายขึ้น และหากได้ประตูออกนำ ทุกอย่างก็น่าจะจบลง