ศึกฟุตบอลยูโร 2020 รอบรองชนะเลิศ เมื่อคืนวันที่ 7 ก.ค. “สิงโตคำราม” อังกฤษ เผชิญหน้ากับ “โคนม” เดนมาร์ก ที่เวมบลีย์ สเตเดี้ยม กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

เข้าสู่นาทีที่ 30 “โคนม” ได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจากลูกฟรีคิกของ มิคเคล ดามส์การ์ด หลังจากนั้น “สิงโตคำราม” ตามตีเจ๊าได้จาก ซิมง เคียร์ กองหลังทีมชาติเดนมาร์กทำเข้าประตูตัวเองในนาทีที่ 39 จบครึ่งแรก เสมอ 1-1 เข้าสู่ครึ่งหลังไม่มีการยิงประตูเพิ่มเติม หมดเวลาการแข่งขัน เสมอ 1-1 จึงต้องต่อเวลาอีก 30 นาทีเพื่อตามหาผู้ชนะกันต่อ และเป็น อังกฤษ มาได้ประตูชัยในนาทีที่ 102 จากจังหวะที่ แฮร์รี่ เคน ซัดจุดโทษไปติดพลาด แต่ยังตามซ้ำเข้าไปตุงตาข่าย จบ 120 นาที “สิงโตคำราม” เป็นฝ่ายชนะ 2-1 ผ่านเข้าชิงแชมป์ยูโรได้เป็นครั้งแรกในหน้าประวัติศาตร์ โดยจะพบกับ “อัซซูรี่” อิตาลี ในคืนวันที่ 11 ก.ค.นี้

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงทั้งสองทีม
อังกฤษ: จอร์แดน พิคฟอร์ด – ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, ลุค ชอว์ – แคลวิน ฟิลลิปส์, เดแคลน ไรซ์ – บูกาโย่ ซาก้า, เมสัน เมาท์, ราฮีม สเตอร์ลิง – แฮร์รี่ เคน

เดนมาร์ก: แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล – อันเดรียส คริสเตนเซ่น, ซิมอน เคียร์, ยานนิก เวสเตอร์การ์ด – เยนส์ สตรีเกอร์, ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบียร์ก, โธมัส เดลานี่ย์, โยอาคิม เมห์เล่ – มาร์ติน เบรธเวต, มิคเคล ดามส์การ์ด – แคสเปอร์ ดอลเบิร์ก