ฟุตบอล เอฟเอ คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย ที่ คิง พาวเวอร์ สเตเดียม เลสเตอร์ ทีมอันดับ 3 ที่ชนะมาสองเกมหลัง รับการมาเยือนของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีม รองจ่าฝูง ที่ไม่แพ้ใครมา 14 เกมติดแล้วในทุกรายการ

เกมนี้ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ยังไม่มีสองกองกลางตัวเก่งอย่าง เจมส์ แมดดิสัน และ ฮาร์วีย์ บาร์นส์ และต้องฝากความหวังไว้ที่สามประสานอย่าง เจมี วาร์ดี้, เคเลชี อิเฮนาโช และ อโยเซ เปเรซ ด้าน โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เกมนี้ ไม่มี มาร์คัส แรชฟอร์ด และโรเตชั่นหลายตำแหน่ง หลังพัก บรูโน แฟร์นานเดส พร้อมใช้ ปอล ป็อกบา เป็นจอมทัพ พร้อมมีดอนนี ฟาน เดอ เบ็ค, เมสัน กรีนวูด และ อองโธนี มาร์กซิยาล

เริ่มเกมมา 24 นาที เฟร็ด จ่ายบอลคืนพลาดและเป็น เคเลชี อิเอนาโช ที่ฉกไปยิงเข้าไปให้เลสเตอร์ นำแมนยู ก่อน 1-0

แต่นาที 38 แมนยูก็มาได้ประตูตีเสมอจากจังหวะที่ ปอล ป็อกบา ได้บอลทางฝั่งซ้ายก่อนจ่ายเข้ากลาง ดอนนี ฟาน เดอ เบ็ค ข้ามหลอกให้ เมสัน กรีนวูด ยิงเข้าไปให้สกอร์กลับมาเท่ากันที่ 1-1 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลังนาที 52 ยูริ ตีเลมองส์ ลากบอลฝ่าเข้ามาตรงกลางก่อนกดด้วยขวาบอลเสียบตาข่ายเข้าไปให้ จิ้งจอกสยามนำ 2-1

นาที 78 เลสเตอร์ มาได้ประตูฝังจากฟรีคิกและเป็น เคเลชี อิเอนาโช โหม่งที่เสาสองเข้าไปเป็นประตูปิดท้ายให้ เลสเตอร์ ซิตี้ เอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไป 3-1 พร้อมผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ไปพบกับ เซาแธมป์ตัน ส่วน รอบรองชนะเลิศอีกคู่ เชลซี จะต้องพบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้

รายชื่อ 11 ตัวจริง

เลสเตอร์ ซิตี้ : แคสเปอร์ ชไมเคิล (GK) – เวสลีย์ โฟฟานา, จอนนี อีแวนส์, คากลาร์ โซยุนซู – มาร์ค อัลไบร์ทตัน, วิลฟรีด เอ็นดีดี้, ยูริ ตีเลมองส์, ธิโมธี คาสตานเญ – เคเลชี อิเฮนาโช, อโยเซ เปเรซ, เจมี วาร์ดี้

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : ดีน เฮนเดอร์สัน (GK) – อารอน วาน บิสซาก้า, วิคตอร์ ลินเดเลิฟ, แฮร์รี แมคไกวร์, อเล็ก เตลเลส – เฟร็ด, เนมานยา มาติช – เมสัน กรีนวูด, ปอล ป็อกบา, ดอนนี ฟาน เดอ เบ็ค – อองโธนี มาร์กซิยาล