ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก นัดที่ 24 คู่บิ๊กแมตช์ ที่สนาม คิง เพาเวอร์ สเตเดียม เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมอันดับ 3 ที่ชนะมาสองจากเกมหลัง เปิดบ้านพบกับ ลิเวอร์พูล ทีมอันดับ 4 ที่แพ้มาสองเกมติดต่อกัน
เกมนี้ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส วาง เจมี วาร์ดี้ เป็นกองหน้าตัวเป้า โดยมี ฮาร์วีย์ บาร์นส์ และ เจมส์ แมดดิสัน สนับสนุนส่วน เจอร์เก้น คล็อปป์ ให้โอกาส โอซาน คาบัค ประเดิมคุมเกมรับร่วมกับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ส่วนแดนหน้ามาเต็ม นำโดย โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน, ซาดิโอ มาเน่ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์
ครึ่งแรกนาที 42 เลสเตอร์ ซิตี้ เกือบได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ เจมี วาร์ดี้ ได้บอลก่อนกดด้วยขวาบอลพุ่งไปชนคานและไม่มีจังหวะเพิ่มเติมจบครึ่งแรกเสมอกันไป 0-0
ครึ่งหลังนาที 56 ลิเวอร์พูลมาได้ลุ้นบ้างจากฟรีคิก แต่เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ปั่นแฉลบ และไปชนคาน
และนาที 67 ลิเวอร์พูล ก็มาได้ประตูออกนำจนได้จากจังหวะที่ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ จ่ายให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน ไขว้กลับหลังให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยิงเข้าไปให้ ลิเวอร์พูล นำก่อน 1-0
นาที 78 เลสเตอร์มาได้ฟรีคิก และเป็น เจมส์ แมดดิสัน ที่กึ่งยิงกึ่งผ่านเข้าประตูไป แม้จะมีการเช็ควีเออาร์ แต่กรรมการให้เป็นประตู ให้สกอร์กลับมาเสมอกัน 1-1
เท่าน้นไม่พอนาที 81 อลิสซอน พลาดอีกแล้วหลังออกมาชนกับโอซาน คาบัค และบอลมาถึง เจมี วาร์ดี้ ยิงโล่งๆเข้าไปให้ เจ้าถิ่นแซงนำ 2-1
หลังจากนั้นนาที 85 เลสเตอร์ ซิตี้ มาได้ประตูฝัง และคราวนี้เป็น ฮาร์วีย์ บาร์นส์ ที่ได้ปั่นด้วยขวา เข้าประตูไป ให้ เลสเตอร์ ซิติ้ เอาชนะ ลิเวอร์พูลไป 3-1 มีเพิ่มเป็น 46 คะแนน แซงขึ้นเป็นรองจ่าฝูง ส่วนลิเวอร์พูล มีสิทธิ์หลุดจากท็อปโฟร์ หลังมี 40 แต้มเท่าเดิม
รายชื่อ 11 ตัวจริง
เลสเตอร์ ซิตี้ : แคสเปอร์ ชไมเคิล (GK) – ดาเนียล อมาเตย์, จอนนี อีแวนส์, คากลาร์ โซยุนซู – ริคาร์โด้ เปไรรา, ยูรี ตีเลมองส์, วิลฟรีด เอ็นดิดี้, มาร์ค อัลไบร์ทตัน – ฮาร์วีย์ บาร์นส์, เจมส์ แมดดิสัน, เจมี วาร์ดี้
ลิเวอร์พูล : อลิสซอน เบคเกอร์ (GK) – แอนดี้ โรเบิร์ตสัน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, โอซาน คาบัค, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ – เจมส์ มิลเนอร์, จินี ไวจ์นัลดุม, เคอร์ติส โจนส์ – โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน, ซาดิโอ มาเน่
