ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันที่ 4 ก.ค. “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี เปิดรังสแตมฟอร์ด บริดจ์ ต้อนรับ “แตนอาละวาด” วัตฟอร์ด ทีมคู่ปรับร่วมกรุงลอนดอน เกมนี้เจ้าบ้านของกุนซือ แฟรค์ แลมพาร์ด ตัดสินใจให้ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ กลับมายืนเป็นกองหน้าตัวเป้า ส่วนทีมเยือนของกุนซือ ไนเจล เพียร์สัน จัดผู้เล่นใหญ่ลงสนาม นำทัพโดย อิสไมล่า ซาร์ นักเตะค่าตัวแพงที่สุดของสโมสร

ในช่วงครึ่งแรก “สิงโตน้ำเงินคราม” ครองบอลได้เหนือกว่า และได้มาประตูขึ้นนำ 2 ลูกรวดจาก โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ในนาทีที่ 28 และจุดโทษของ วิลเลี่ยน ในนาทีที่ 43 จบ 45 นาทีแรก เชลซี ออกนำ 2-0 เข้าสู่ครึ่งหลัง เจ้าบ้านยังครองบอลได้มากกว่า และมาได้ประตูตอกย้ำชัยชนะจาก รอสส์ บาร์กลีย์ ในช่วงนาทีที่ 90

หมดเวลาการแข่งขัน “สิงโตน้ำเงินคราม” เป็นฝ่ายชนะ 3-0 ทำให้ เชลซี อยู่เกาะกลุ่ม “ท็อปโฟร์” ในอันดับ 4 ที่จะได้โควตาไปเล่นในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เอาไว้ได้ หลังแข่ง 33 นัด มี 57 แต้ม เหนือกว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 5 เพียง 2 แต้ม และตามหลัง เลสเตอร์ ทีมอันดับ 3 แค่คะแนนเดียว ส่วน วัตฟอร์ด ยังต้องหนีตายต่อไป เพราะยังอยู่อันดับ 17 แข่ง 33 นัด มี 28 แต้ม อยู่เหนือกว่า แอสตัน วิลล่า ทีมอันดับ 18 ในโซนตกชั้นเพียงหนึ่งคะแนน

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
นอริช แพ้ ไบรท์ตัน 0-1
เลสเตอร์ ชนะ คริสตัล พาเลซ 3-0
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ บอร์นมัธ 5-2
วูล์ฟแฮมป์ตัน แพ้ อาร์เซนอล 0-2
เชลซี ชนะวัตฟอร์ด 3-0