เจสซี ลินการ์ด ยอมรับว่า 2-3 ปี ที่ผ่านมา เขาไม่ได้มีสมาธิกับการเล่นฟุตบอลเลย เพราะเจอปัญหามากมายนอกสนาม
“มันรู้สึกเหมือนว่าคุณไม่ใช่คนเดิม ผมรู้สึกว่าผมไม่ใช่เจสซี ลินการ์ด แม้แต่ในการแข่งขันฟุตบอล ผมรู้สึกเหมือนว่าเกมมันแค่ผ่านผมไปเฉย ๆ เหมือนว่าผมไม่ได้อยู่ตรงนั้น มันบ้ามากเลยล่ะ ผมอยู่ในเกมโดยนั่งมีความสุขบนม้านั่งสำรองซึ่งมันไม่ใช่ผมเลย จิตใจของผมไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ผมไม่ได่โฟกัสเรื่องฟุตบอลเลย ผมคิดถึงแต่เรื่องอื่นและเห็นได้ชัดว่าการเก็บความรู้สึกทั้งหมดเพื่อพยายามเล่นฟุตบอล, คุณจะกดดัน เครียด และไม่สามารถทำมันได้” ลินการ์ด กล่าว
“มีวันหนึ่งช่วงค่ำ เราไปโรงแรมตั้งแต่บ่าย ผมหลับไปเลยตั้งแต่ช่วยบ่ายสองถึงบ่ายสี่ ผมห้องมือ จากนั้นก็ตื่นมาในความมือ ไม่มีแสงอาทิตย์ ผมรู้สึกเหมือนในชีวิตคุณต้องผ่านช่วงเวลาเลวร้าย คุณผ่านช่วงต่าง ๆ ในชีวิตทั้งดีและร้าย แต่ผมรู้สึกว่าผมเจอแต่ความเลวร้ายตลอดมา กำจัดมันออกไปให้ได้ และคุณจะเห็นแสงสวางที่ปลายอุโมงค์”
“ผมบอกแมนยูว่า ผมเจออะไร แม่ผมเป็นอะไร พวกเขาก็พยายามช่วยเหลือผม ผมพร้อมจะวิ่งออกจากบ้านในช่วงล็อคดาวน์ได้ การยอมแพ้มันง่าย แต่ผมยังอยากสู้ ผมยังมีชีวิต ในช่วงล็อคดาวน์ ผมต้องพยายามออกกำลังกายจนเป็นบ้าในยิม เรียกความฟิต ทำทุกอย่างให้เร็วกว่าคนอื่น ผมเป็นแบบนั้น พอได้ออกจากบ้าน มันเหมือนอีกความรู้สึก ผมได้ดูการเล่นในอดีตของผม นั่นคือเจสซี ลินการ์ด แต่ 2-3 ซีซั่นหลัง มันไม่ใช่เลย พี่ชายของผมก็รู้ เขาเห็นผมดูวิดีโอ และนั่งเหม่อบนโซฟา เขารู้ว่าผมรู้สึกอะไร มันหนักมาก และเขาก็ตอบไมได้หรอกว่าผมรู้สึกอะไร”