ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่แรกของวันที่ 20 มิ.ย. “แตนอาละวาด” วัตฟอร์ด เปิดวิคาเรจ โรด ต้อนรับ “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ เกมนี้เจ้าบ้านของกุนซือ ไนเจล เพียร์สัน ส่งแข้งหลักอย่าง อิสไมลา ซาร์, อับดุลลาย ดูกูเร่, โรแบร์โต้ เปเรยร่า และ ทรอย ดีนีย์ ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงทั้งหมด ส่วนทีมเยือนของกุนซือ เบรนแดน รอดเจอร์ส จัดทีมชุดใหญ่ลงสนาม นำทัพโดย ชักลาร์ โซยุนชู, วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้, เจมส์ แมดดิสัน และ เจมี่ วาร์ดี้ รั้งเบอร์หนึ่งอันดับดาวซัลโวด้วยจำนวน 19 ประตู

ในช่วงครึ่งแรก “จิ้งจอกสยาม” เป็นฝ่ายครองบอลเหนือกว่า และมีโอกาสลุ้นยิงประตูหลายครั้ง แต่ยังเจาะตาข่ายเจ้าถิ่นไม่เข้า จบ 45 นาทีแรก เสมอ 0-0 เข้าสู่ครึ่งหลังยังคงเป็นทีมเยือนครองเกมดีกว่า และมีจังหวะสับไกแบบต่อเนื่องด้วย แต่ยังไม่ผ่านมือ เบน ฟอสเตอร์ ผู้รักษาประตู “แตนอาละวาด” ก่อนจะมาประสบความสำเร็จเป็นฝ่ายออกนำ 1-0 ช่วงท้ายเกมจาก เบน ชิลเวลล์ ในนาทีที่ 90 เกมทำท่าว่าชัยชนะจะเป็นของ เลสเตอร์ อยู่แล้ว ทว่า วัตฟอร์ด ไม่ยอมแพ้มาตามทวงคืนในช่วงทดเวลาบาดเจ็บไปแล้วถึง 5 นาทีจาก เครก ดอว์สัน

หมดเวลาการแข่งขัน เสมอแบบไร้สกอร์ 0-0 แบ่งกันไปทีมละหนึ่งคะแนน ทำให้ วัตฟอร์ด ยังคงต้องดิ้นรนหนีการตกชั้นในโซนท้ายตารางอันดับ 16 แข่ง 30 นัด มี 28 แต้ม อยู่เหนือกว่า บอร์นมัธ ทีมอันดับ 18 ในโซนตกชั้นเพียงหนึ่งคะแนน ส่วน เลสเตอร์ ยังอยู่อันดับ 3 แบบเหนียวแน่น แข่ง 30 นัด มี 54 แต้ม ตามหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมรองจ่าฝูงที่แข่งน้อยกว่าหนึ่งเกมอยู่ 6 คะแนน