ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก นัดที่ 8 ที่ คิง เพาเวอร์ สเตเดียม เลสเตอร์ ซิตี้ ที่ก่อนพักเบรคไม่ชนะใครมาสามนัดติด เปิดบ้านพบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ยังไม่แพ้ในเกมเยือนมา 29 นัดติดต่อกัน
เกมนี้ เบรนแดน ร็อดเจอร์สใช้ เจมี วาร์ดี้ กับ เคเลชี อิเฮียนาโช่ เป็ฯกองหน้าคู่กัน ส่วนตรงกลางมี เจมส์ แมดดิสัน และ ยูรี ตีเลอมองส์ ด้าน โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เกมนี้ ได้ แฮร์รี แมคไกวร์ กลับมาลงสนามได้อีกครั้ง ส่วน แดนหน้า ใช้ เมสัน กรีนวู้ด, บรูโน่ แฟร์นานเดส, เจดอน ซานโช่, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ส่วนมาร์คัส แรชฟอร์ด เป็นตัวสำรอง
เริ่มเกมมาเลสเตอร์ บุกใส่แต่นาที 19 กลายเป็น แมนยู ที่นำก่อน จากจังหวะที่ เมสัน กรีนวูด ลากตัดเข้ากลาง ก่อนกดด้วยซ้าย บอลติดไซด์ก้อยเสียบสามเหลี่ยมเข้าไปให้ แมนยู นำก่อน 1-0
แต่นาที 31 เลสเตอร์ มาได้ประตูตีเสมอจากจังหวะพลาดของ แฮร์รี แมคไกวร์ และเป็น เคเลชี อิเฮียนาโช จ่ายกลับให้ ยูริ ตีเลอมองส์ ปั่นด้วยขวาบอลย้อยเสียเสาเข้าไป ให้สกอร์กลับมาเท่ากันที่ 1-1 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลังนาที 78 เลสเตอร์มาได้ประตูขึ้นนำจนได้ หลังมีลุ้นหลายครั้งจากลุกเตะมุม ที่แนวรับแมนยูเคลียร์กันไม่ขาด และเป็น คากลาร์ โซยุนซู ยิงจ่อๆเข้าไปให้ จิ้งจอกนำ 2-1
แต่แมนยู ไม่ยอมง่ายๆ นาที 82 แมนยู มาได้ประตูตีเสมอจากบอลยาวของวิคตอร์ ลินเดเลิฟ และเป็น มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ได้หบลุดเดี่ยวก่อนกดด้วยขวาเข้าไป ให้สกอร์กลับมาเท่ากันที่ 2-2
แต่นาที 83 เลสเตอร์ ก็มาได้ประตูออกนำอีกครั้งจากจังหวะที่ อโยเซ่ เปเรซ ได้หลุดมาทางซ้ายก่อนจ่ายให้ เจมี วาร์ดี้ กดด้วยขวาเข้าไปให้ เจ้าถิ่นนำอีกครั้งเป็น 3-2
เท่านั้นไม่พอ ทดเจ็บ เลสเตอร์ มาได้ประตูปิดท้าย และเป็น แพตสัน ดาก้า กองหน้าตัวใหม่ ที่ลงมาเป็นตัวสำรอง ยิงเข้าไปให้ เลสเตอร์ นำห่างเป็น 4-2
รายชื่อ 11 ตัวจริง
เลสเตอร์ ซิตี้ : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล (GK), ริคาร์โด้ เปเรยร่า, ดาเนียล อมาร์ตีย์, จอนนี่ อีแวนส์, คากลาร์ โซยุนชู, ติโมธี กาสตาญ, ยูริ ตีเลอมองส์, บูบาการี่ ซูมาเร่, เจมส์ แมดดิสัน, เคเลชี่ อิเฮียนาโช่, เจมี่ วาร์ดี้
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เคอา (GK), อารอน วาน-บิสซาก้า, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, ลุค ชอว์, เนมานย่า มาติช, ปอล ป็อกบา, เมสัน กรีนวู้ด, บรูโน่ แฟร์นานเดส, เจดอน ซานโช่, คริสเตียโน่ โรนัลโด้
