ติดต่อเรา
TH Ufabet TH Joker Free Spins Slotxo 3388 Reload 8%
สิ่งที่เราได้เรียนรู้จาก ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก สัปดาห์ที่ผ่านมา พรีเมียร์ลีกอังกฤษ

พรีเมียร์ลีกอังกฤษ

สิ่งที่เราได้เรียนรู้จาก ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก สัปดาห์ที่ผ่านมา

รอบสัปดาห์ที่ผ่านมาเกิดเหตุการณ์น่าสนใจมากมาย โดยเฉพาะในวงการฟุตบอลอังกฤษ ที่เดินมาถึงช่วงโค้งสุดท้ายของการแข่งขัน

สิ่งที่เราได้เรียนรู้จาก ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก สัปดาห์ที่ผ่านมา

ลิเวอร์พูล และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แสดงให้เห็นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ว่าทำไมช่องว่างของพวกเขาในฤดูกาลนี้ถึงห่างกัน 23 คะแนน ซึ่งมันก็เกิดจากเรื่องราวเหล่านี้

ขณะที่ เมสัน กรีนวูด และ เจมี วาร์ดี้ อาจจะมีเส้นทางการเป็นนักฟุตบอลอาชีพที่แตกต่างกัน แต่ในวันเสาร์ ทั้ง 2 คน ต่างยิงได้ 2 ประตู และถือเป็นชัยชนะนัดสำคัญของทั้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และเลสเตอร์ ซิตี้ ในการแย่งชิง 4 อันดับแรก

ขณะที่นอริช ความหวังในการรักษาตัวเองในลีกสูงสุด ดูริบหรี่ลงไปเรื่อยๆ หลังพวกเขาจมบ๊วย และไม่สามารถเก็บแต้มได้เลย ตลอดช่วงหลัง

เรามาดูห้าสิ่งที่เราต้องเรียนรูจากพรีเมียร์ลีก

สิ่งที่เราได้เรียนรู้จาก ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก สัปดาห์ที่ผ่านมา พรีเมียร์ลีกอังกฤษ

เมสัน กรีนวูด ว่าที่ซูเปอร์สตาร์ คนใหม่ ของโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

กรีนวูด เหมือนรักครั้งใหม่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพราะด้วยวัย 18 ปี เขาได้แสดงให้เห็นว่าทำไม โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ถึงเชื่อว่าเขาจะเป็นนักเตะที่ดีที่สุด แม้จะไม่ใช่ที่สุด แต่ในเรื่องการยิงประตูนี่คือคนที่ดีที่สุดที่เขาเคยร่วมงานมา

โดย โซลชา นั้นเคยร่วมงานกับ คริสเตียโน โรนัลโด้ และ เวย์น รูนีย์ ในสมัยที่วัยไล่เลี่ยกับกรีนวูด ซึ่ง กรีนวูดก็แสดงให้เห็นด้วยการยิงทั้งเท้าซ้ายและเท้าขวา ในเกมกับบอร์นมัธ และเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2011 ที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยิงได้ 5 ประตู ในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

ขณะที่มาร์คัส แรชฟอร์ด และ อองโธนี มาร์กซิยาล ก็ยิงแตะหลัก 20 ประตู ในฤดูกาลนี้ได้สำเร็จ เช่นเดียวกับ บรูโน แฟร์นานเดส ที่ยิงฟรีคิกได้ เมื่อ ปอล ป็อกบา ประสานงานกับ แฟร์นานเดส นี่จึงกลายเป็นกองกลางคนสำคัญของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และดูเหมือนว่ามันจะเป็นปีที่สุดยอดของโซลชา เทียบเท่ากับยุคสมัยของ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน

สิ่งที่เราได้เรียนรู้จาก ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก สัปดาห์ที่ผ่านมา พรีเมียร์ลีกอังกฤษ

การรอคอยที่แอนฟิลด์ สิ้นสุดลง

แฟนๆ ลิเวอร์พูล รอคอยมานานกว่า 3 ทศวรรษ กับการเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก แต่พวกเขาก็ไม่สามารถเข้าไปกระทบไหล่กับเหล่านักเตะได้ในตอนนี้

ลิเวอร์พูลได้กลับมาเล่นในแอนฟิลด์ เป็นครั้งแรก หลังพวกเขาได้รับแชมป์อย่างเป็นทางการ พร้อมได้รับเสียงปรบมือจากคู่ต่อสู้ แม้จะขาดบรรยากาศที่ตื่นเต้น แต่สิ่งหนึ่งทียังคงเหมือนเดิม ก็คือพวกเขาชนะอีกแล้ว หงส์แดง ต้องเผชิญหน้ากับ แอสตัน วิลล่า ที่กำลังต้องดิ้นรนหนีการตกชั้น แต่ด้วยประตูของ ซาดิโอ มาเน่ และ เคอร์ติส โจนส์ มันก็ดีมากพอที่จะทำให้ทีมคว้าชัยชนะเป็นนัดที่ 24 ติดต่อกัน ในแอนฟิลด์

สิ่งที่เราได้เรียนรู้จาก ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก สัปดาห์ที่ผ่านมา พรีเมียร์ลีกอังกฤษ

วาร์ดี้ กับความเป็นสุดยอด

เลสเตอร์ ออกสตาร์ทในช่วงของการเริ่มต้นใหม่ได้ไม่ดีนัก ซึ่งสิ่งที่พวกเขาขาดหายไปก็คือ ประตูของ เจมี วาร์ดี้

แต่สุดท้ายแล้วทั้งหมดก็จบลง หลังหัวหอกหมายเลข 9 ของพวกเขากลับมาทำประตูอีกครั้ง และมาทีเดียว 2 ลูก ในเกมกับ คริสตัล พาเลซ และทำให้เขาเป็นนักเตะคนที่ 29 ที่ยิงประตูพรีเมียร์ลีก ได้ถึง 100 ประตู

ในลูกที่ 2 วาร์ดี้ ได้โชว์ความเป็นตัวตนของเขา หลังวิ่งตัดแนวรับ ก่อนยกบอลข้ามตัว บิเซนเต้ กวาอิต้า เข้าไป และทำให้จิ้งจอก เก็บ 3 คะแนน มีโอกาสไปแชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลหน้า เพราะทีมของเบรนแดน ร็อดเจอร์ส ยังคงรั้งอันดับ 3 แต่พวกเขาก็ต้องเจอกับงานหนัก อย่าง อาร์เซนอล, ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ส และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วง 5 เกมสุดท้ายของฤดูกาล

สิ่งที่เราได้เรียนรู้จาก ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก สัปดาห์ที่ผ่านมา พรีเมียร์ลีกอังกฤษ

ความหวังในพรีเมียร์ลีกของนอริช กำลังดับลงแล้ว

เกมนัดล่าสุด กลายเป็นโอกาสของไบร์ทตัน ที่จะอยู่รอด ส่วนนอริช ดูเหมือนเรื่องจะจบลง และประตูเดียวที่แคร์โรว์ โรด ก็เป็นของทีมเยือน

การพ่ายแพ้หกนัดติดต่อกัน ทำให้พวกเขามีแต้มตามหลังโซนปลอดภัยอยู่ 7 คะแนน สำหรับนกขมิ้น และคาดว่า ดาเนียล ฟาร์เก้ น่าจะลาออกหาทีมต้องตกชั้นไปเล่นแชมเปี้ยนชิพ ฤดูกาลหน้า

“เรายังไม่ตกชั้น แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสสุดท้ายที่เราจะได้ผลลีพธ์ที่ดี เพื่อกลับไปมีลุ้น” กุนซือชาวเยอรมัน กล่าว

สิ่งที่เราได้เรียนรู้จาก ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก สัปดาห์ที่ผ่านมา พรีเมียร์ลีกอังกฤษ

ความพ่ายแพ้อีกครั้งของแมนเชสเตอร์ ซิตี้

ชัยชนะของนอริช ที่มีต่อ แมนฯซิตี้ เมื่อเดือนกันยายน ถึงเป็นผลที่ช็อคพอสมควร สำหรับทีมของเป็ป กวาร์ดิโอลา โดยเฉพาะเกมรับของพวกเขา

แมนฯซิตี้ ตอนนี้ แพ้ไปแล้ว 9 นัดในฤดูกาลนี้ โดย 6 นัดจากจำนวนดังกล่าว นั้นคล้ายคลึงกับการพ่ายแพ้ต่อ เซาแธมป์ตัน 0-1

โดยผู้มาเยือน มีโอกาสครองบอลถึง 74 เปอร์เซ็นต์ และมีโอกาสยิงถึง 26 ครั้ง แต่ก็เจาะไม่เข้า และความผิดพลาดในเกมรับ จาก โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ที่เสียบอล และเป็น เช อดัมส์ ที่เล่นงาน เอแดร์ซอน จากระยะ 40 หลา

บทความโดย sportthai.net

ยูโร-2020

อ่านเพิ่มเติมใน พรีเมียร์ลีกอังกฤษ