ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก นัดที่ 35 ที่ เอติฮัด สเตเดียม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ชนะมา 5 เกมติด ในทุกรายการและต้องการชัยชนะ เพื่อการันตี แชมป์ เปิดบ้าน พบกับ เชลซี ทีมอันดับ 4 ที่ไม่แพ้ใครมาหกเกมติดและต้องการสามคะแนน เพื่อแซงเลสเตอร์ ขึ้นไปอยู่ที่ 3

เกมนี้ เป็ป กวาร์ดิโอลา ใช้ กาเบรียล เฆซุส เซร์คิโอ อเกวโร และ เฟร์ราน ตอร์เรส ส่วนตรงกลางมีโรดรี้ ด้าน โธมัส ทูเคิล เกมนี้ใช้ ติโม แวร์เนอร์ เล่นร่วมกับ คริสเตียน พูลิซิช พร้อมมี ฮาคิม ซิเยค ทำเกมสนับสนุน

ครึ่งแรก เหมือนจะไม่มีประตู แต่นาที 44 กาเบรียล เฆซุส ได้หลุดมาทางขวา ก่อนจ่ายเข้ากลางแล้ว เซร์คิโอ อเกวโร จับลั่นแต่ยังดีที่ ราฮีม สเตอร์ลิง ยังวิ่งมาแปเข้าไปให้เจ้าถิ่นนำก่อน 1-0

ทดเจ็บ แมนซิตี้ มาได้จุดโทษ จากจังหวะที่ กาเบรียล เฆซุส โดนบิลลี กิลมอร์ ทำฟาวล์ แต่เซร์คิโอ อเกวโร ยิงปาเนนก้า ไปเข้ามือ เอดูอาร์ เมนดี้ และจบครึ่งแรก แมนซิตี้ นำก่อน 1-0

และนาที 63 เชลซี ก็มาได้ประตูตีเสมอจนได้จากจังหวะที่ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ที่จ่ายให้ ฮาคิม ซิเยค ตรงกลางก่อนกดด้วยซ้ายเบียดเสาเข้าไปให้สกอร์กลับมาเท่ากันที่ 1-1

ทดเจ็บ มาร์กอส อลอนโซ มาซัดประตูชัยให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แพ้ เชลซี 1-2 ทำให้การฉลองแชมป์ลีกยังไม่เกิดขึ้น ส่วน สิงห์บลู ขึ้นมาอยู่ที่ 3 แทนที่เลสเตอร์ ด้วยการมี 64 แต้ม

รายชื่อ 11 ตัวจริง

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : เอแดร์ซอน, เจา คานเซโล, รูเบน ดิอาส, อายเมริก ลาปอร์ต์, นาธาน อาเก้, เบนฌาแม็ง เมนดี้, โรดรี้, เฟร์ราน ตอร์เรส, กาเบรียล เชซุส, ราฮีม สเตอร์ลิง, เซร์คิโอ อเกวโร่

เชลซี : เอดูอาร์ เมนดี้, เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, อันเดรียส คริสเตนเซ่น, อันโตนิโอ รูดิเกอร์, รีซ เจมส์, บิลลี่ กิลมอร์, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, มาร์กอส อลอนโซ่, ฮาคิม ซิเยค, คริสเตียน พูลิซิช, ติโม แวร์เนอร์