อาร์เซนอล – วัตฟอร์ด
วัตฟอร์ด จะต้องบุกไปเยือน อาร์เซนอล ในนัดสุดท้ายของพรีเมียร์ลีก วันอาทิตย์นี้ โดยพวกเขาต้องการอย่างน้อย 1 คะแนน เพื่อรอดพ้นจากการตกชั้น
แตนอาละวาด ตอนนี้อยู่ในพื้นที่สีแดง ก่อนลงเล่นในนัดสุดท้าย หลังมีประตูได้เสียเป็นรองแอสตัน วิลล่า ทีมในโซนปลอดภัยอยู่ และต้องเจอกับ อาร์เซนอล ทีมอันดับ 10 ที่อาจจะต้องมองถึงเกม เอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ ในสุดสัปดาห์หน้า
ตอนนี้ ชะตากรรมของวัตฟอร์ด ไม่ได้อยู่ในมือของพวกเขา หลังจากที่ นัดล่าสุด แอสตัน วิลล่า ระเบิดฟอร์ม ด้วยการเอาชนะ อาร์เซนอล ไป 1-0 ขณะที่วัตฟอร์ดไปสะดุด แพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-4
แดนอาละวาด แพ้ ซิตี้ มาเละในเกมล่าสุด หลังจากที่ก่อนหน้านั้น 2 วัน พวกเขาได้ปลด ไนเจล เพียร์สัน ออกจากตำแหน่ง หลังทีมสุ่มเสี่ยงต่อการตกชั้น
ในวันสุดท้าย วิลล่าจะต้องไปเยือน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด โดยเวสต์แฮม เพิ่งการันตีการอยู่รอดไปเมื่อวันพุธ ซึ่งหากวิลล่าชนะได้ พวกเขาจะได้อยู่ในพรีเมียร์ลีกต่อไปอีกปีทันที หลังประตูได้เสียพวกเขาดีกว่า วัตฟอร์ด เล็กน้อย
วัตฟอร์ด ถือว่าเจองานที่ยากกว่า สิงห์ผงาด ที่ต้องเจอเวสต์แฮม และพวกเขายังเป็นรองเรื่องประตูได้เสีย ที่อาจจะเป็นตัวตัดสิน แต่ก็แค่ประตูเดียวเท่านั้นที่พวกเขาเป็นรอง
แต่มันอาจจะไม่ใช่ตัวชี้ขาดเพียงอย่างเดียว เพราะประตูได้ ของวัตฟอร์ด ก็น้อยกว่าวิลล่าเสียด้วย โดยปัจจุบันพวกเขาใช้ เฮย์เดน มัลลินส์ คุมทัพชั่วคราว และจำเป็นต้อง เก็บสามแต้มออกจาก เอมิเรตส์ สเตเดยม ให้ได้ก่อนในเกมสุดท้ายของฤดูกาล และต้องพยายามยิงให้ได้เยอะๆไว้ก่อน
เป้าหมายสำหรับ เฮย์เดน มัลลินส์ เฮดโค้ชชั่วคราว อย่างแรกคือการเก็บสามคะแนนจากเอมิเรตส์ สเตเดียม แต่สถิติที่ผ่านมาถือว่าน่าผิดหวัง เพราะวัตฟอร์ด ชนะใครในนัดสุดท้ายไม่ได้เลย นับตั้งแต่ การแข่งขันแชมเปี้ยนชิพ ในฤดูกาล 2011/12
พวกเขาไม่ควรจะต้องมาดิ้นรนหนีการตกชั้น แต่ฟอร์มของวัตฟอร์ดตกลงอย่างมากนับตั้งแต่ชนะลิเวอร์พูลได้ 3-0 เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ หลัง 9 เกมหลังสุด พวกเขาเก็บชัยชนะได้เพียงแค่ 2 นัดเท่านั้น
นั่นคือสาเหตุหลัก ที่พวกเขาจำเป็นต้องเอาชนะ อาร์เซนอลให้ได้ ซึ่งพวกเขาเองก็เพิ่งพลาดท่าพ่ายต่อ แอสตัน วิลล่า มาเมื่อกลางสัปดาห์
อย่างไรก็ตาม อาร์เวฯอล เองก็ไม่เคยแพ้ ทีมจากโซนตกชั้นแบบไปกลับ มาตั้งแต่ปี 1983 แต่มันก็ยากที่จะคาดเดาการจัดตัวของมิเกล อาร์เตต้า เพราะนี่ถือเป็นฤดูกาลที่น่าผิดหวังของพวกเขา
การคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ เหนือเชลซีให้ได้ จะทำให้ อาร์เซนอล มีโอกาสเฉิดฉายขึ้นมาเล็กน้อย และทำให้ฤดูกาลนี้ไม่ใช่ฤดูกาลที่น่าผิดหวังสำหรับพวกเขา หลังจากที่แพ้อย่างต่อเนื่องในพรีเมียร์ลีก แต่แน่นอนว่าพวกเขาเองก็ไม่ต้องการแพ้ในเกมนี้
แม้ว่าวัตฟอร์ด จะมีปัญหาในการเล่นเกมสุดท้ายของฤดูกาล ขณะที่ อาร์เซนอล ก็ไม่แพ้ใครในนัดสุดท้ายมาแล้ว 14 ปีติดต่อกัน และยังเป็นชัยชนะถึง 8 นัดติดด้วย
โดยครั้งสุดท้ายที่พวกเขาแพ้ในเกมสุดท้ายของฤดูกาลในบ้านของตัวเอง นั้นต้องย้อนไปถึงฤดูกาล 1992/93 ที่แพ้ ท็อตแนม ฮHอตสเปอร์ส คู่ปรับไป 1-3
ความพร้อมของทั้ง 2 ทีม
อาร์เตต้า ไม่ได้ใช้ มัตเตโอ เกนดูซี และ เมซุต โอซิล เลยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และน่าจะตัดสินใจไม่ใช่งานต่อไป
ขณะเดียวกัน ปืนใหญ่ก็มีนักเตะที่ได้รับบาดเจ็บมากมาย อาทิ แบรนด์ เลโน, คาลัม แชมเบอร์ส, พาโบล มารี, กาเบรียล มาร์ติเนลลี และ ชโคดราน มุสตาฟี ขณะที่ รีสส์ เนลสัน อาจจะยังไม่ฟิต
เนื่องจากว่า ระหว่างเกมนี้ กับนัดชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ จะมีเวลาพักทั้งหมด 6 วัน มันทำให้ รู้สึกว่า อาร์เตต้า น่าจะใช้ทีมชุดที่ดีที่สุดของเขาลงสนามในเกมวันอาทิตย์นี้ นั่นหมายความว่า เขาอาจจะกลับไปใช้ระบบ 3-4-3 นำโดย ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง ที่ยิงไป 4 ประตู จาก 4 เกมหลังสุดในการเจอกับ วัตฟอร์ด ในพรีเมียร์ลีก แม้ว่า 3 ประตู จาก 4 จะเกิดขึ้นที่วิคาเรจ โร้ด ก็ตาม
การไม่มี เคราร์ด เดโลเฟว, ดาริล ยานมาตต์, ไอแซค ซัคเซส และ เอเตียง กาปู ในเกมกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งคาดว่าเกมนี้ก็เช่นกัน
มัลลินส์ ไม่มีนักเตะที่ได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติม รวมถึงนักเตะที่ติดโทษแบน แต่เขาอาจจะเลือกเปลี่ยนแปลงนักเตะบางตำแหน่
นาธาเนียล ชาโลบาห์ และ แดนนี เวลเบ็ค ที่ไม่มีชื่อในเกมกับ แมนฯซิตี้ น่าจะได้กลับมาในเกมนี้
11 ตัวจริงที่คาดว่าน่าจะลงสนามของ อาร์เซนอล
มาร์ติเนซ, โฮลดิ้ง, ลุยซ์, เธียร์นีย์, เบเยริน, เซบาญอส, ชาก้า, ซาก้า, เปเป้, ลากาแซตต์, โอบาเมยอง
11 ตัวจริงที่คาดว่าน่าจะลงสนามของ วัตฟอร์ด
ฟอสเตอร์, มาเรียปป้า, คาบาเซเล่, ดอว์สัน, มาซินา, ดูคูเร่, ชาโลบาห์, ฮิวจ์ส, ซาร์, ดีนีย์, เวลเบ็ค
คาดการณ์ผล อาร์เซนอล ชนะ วัตฟอร์ด 2-1
หากไม่มองถึงผลลัพธ์ของเกมวันอาทิตย์นี้ นี่ถือเป็นฤดูกาลที่ย่ำแย่ที่สุดของอาร์เซนอล นับตั้งแต่ปี 1995 โดยที่เอมิเรตส์ สเตเดียม วัตฟอร์ด เองก็ต้องการ 3 คะแนน แม้จะรู้ว่า วิลล่าจะมีงานที่ง่ายกว่ารออยู่ แต่สถิติของ อาร์เซนอล ในนัดสุดท้ายถือว่าทำได้ดี และมันยากที่จะเกิดการพลิคล็อก
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด – แอสตัน วิลล่า
การต่อสู้เพื่อหนีตกชั้น ในวันอาทิตย์ อีกคู่ เป็นการพบกันระหว่าง แอสตัน วิลล่า กับ เวสต์แฮม ที่ลอนดอน สเตเดียม
ทีมของดีน สมิธ ได้ชัยชนะอันล้ำค่าเหนืออาร์เซนอล เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา ทำให้พวกเขาหนีออกจากโซนแดงได้สำเร็จ แต่ก็ยังอยู่ในสถานการณ์ที่สุ่มเสี่ยง เพราะพวกเขามีความได้เปรียบเหนือทีมโซนตกชั้นเพียงแค่ประตูได้เสียที่ดีกว่าเท่านั้น
การแข่งขันนัดนี้ ถือเป็นนัดสำคัญ ในเกมสุดท้าย ในการตัดสินการตกชั้นโดยในเกมล่าสุด เวสต์แฮม นั้นรอดแน่นอนแล้ว ก่อนจะลงสนามในนัดสุดท้าย
แต่ยังมีงานอีกเยอะสำหรับ แอสตัน วิลล่า แต่โอกาสทั้งหมดอยู่ในมือของพวกเขาเอง ในการเอาตัวรอดในลีกสูงสุด
ในช่วงสองสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ก่อนจะถึงแมตช์วันอาทิตย์ วิลล่า มีคะแนนตามหลังโซนปลอดภัยอยู่ถึง 7 คะแนน ทำให้พวกเขาอยู่ในโวนตกชั้นมาตลอด หลังจากที่ก่อนหน้านั้น 10 นัด พวกเขาเก็บได้แค่ 2 คะแนนเท่านั้นในลีก
แต่ชัยชนะเหนือ คริสตัล พาเลซ ในวันที่ 12 กรกฎาคม จุดประกายฝันให้กับพวกเขา ตามมาด้วยการเสมอกับ เอฟเวอร์ตัน และ สร้างความช็อคต่อเนื่องด้วยการเปิดบ้านเอาชะน อาร์เซนอล และทำให้พวกเขาหลุดพ้นโซนสีแดง เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน กุมภาพันธ์
แม้ ทีมของสมิธ จะไม่ได้การันตีการอยู่รอดในตอนนี้ แต่อันดับที่พวกเขาอยู่ก็ถือว่าดี พวกเขารอดพ้นโซนตกชั้นด้วยการมีประตูได้เสียที่ดีกว่าวัตฟอร์ด ทีมอันดับที่ 18 เพียงแค่ลูกเดียว
นั่นหมายว่า หากวิลล่า ชนะได้ในเกมสุดท้าย แต่ถ้าวัตฟอร์ด ชนะด้วยสกอร์มากกว่า สถานการณ์ก็อาจจะพลิกผัน
นั่นแปลว่า วิลล่าเอง ในขณะที่แข่งขัน ก็ต้องจับตาดูสถานการณ์ของคู่วัตฟอร์ด กับ อาร์เซนอล ด้วยเช่นกัน ถ้าหากทั้งสองทีมเกิดแพ้ทั้งคู่ แล้วบอร์นมัธ เกิดเอาชนะ เอฟเวอร์ตันได้ พวกเขาก็อาจจะเป็นทีมที่ได้อยู่รอดในพรีเมียร์ลีก แทน
ฟอร์มในช่วงหลังของพวกเขา ถือว่าน่าสนใจ หลังเก็บคะแนนได้พอสมควรในช่วง 3 เกมหลังสุด และมากกว่าที่พวกเขาลงแข่งในช่วง 13 นัดก่อนหน้านี้ด้วยซ้ำ และทำให้ทีมเยือนมีโอกาสสูงทีจะอยู่รอดต่อไป และการเจอกับ เวสต์แฮม ถือเป็นสุถานการณ์ที่ง่ายที่สุด หากเทียบกับทีมอื่นๆ
มีสถิติมากมาย ที่ชี้ให้เห็นว่า วิลล่า อาจจะต้องพึ่งพาทีมอื่น แต่ก็ไม่ได้มากขนาดนั้น ในทางกฤษฎีหากพวกเขาไม่ชนะ พวกเขาอาจจะต้องดูว่าเส้นทางก่อนหน้านั้นพวกเขาพลาดกันเอง
ลองมองย้อนกลับไป เมื่อเดือนมกราคมปี 2016 นั่นคือครั้งสุดท้ายที่พวกเขาไม่เสียประตูในพรีเมียร์ลีก และหากดูตารางคะแนน พวกเขาคือทีมที่เสียประตูมากที่สุดเป็นอันดับ 2 และบางที สถิติดังกล่าวอาจจะย้อนกลับมาหลอกหลอนพวกเขาได้
โดย 8 ฤดูกาลหลังสุด พวกเขาไม่สามารถชนะใครในเกมสุดท้ายได้เลย และที่สำคัญเป็นการแพ้ถึง 6 นัด และพวกเขาไม่ต้องสงสัยเลยว่า เกมนี้มันสำคัญแค่ไหนที่พวกเขาต้องเอาชนะให้ได้
เมื่อไม่นานมานี้ ดูเหมือนว่า เกมนี้จะเป็นเกมตัดสินหาทีรอดตกชั้น แต่ขุนค้อน ชนะ 3 และ แพ้แค่ 1 จาก 6 เกมหลังทำให้พวกเขาปลอดภัยทันที และการเสมอกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-1 ทำให้พวกเขาการันตีการอยู่ในลีกสูงสุด
เวสต์แฮม เองก็ทำได้ดี โดยเฉพาะ 6 นัดหลังสุด และมันมากกว่าที่พวกเขาทำได้ก่อนหน้านั้น 17 นัดด้วยซั่ม การเอาชนะ ทีมร่วมหนีตกชั้นอย่างนอริช และ วัตฟอร์ด ได้ ถือเป็นชัยชนะที่สำคัญ ที่ทำให้พวกเขาได้ฉลอง เดวิด มอยส์ จะต้องการมากกว่านี้ ในการหนีตกชั้น ในฤดูกาลหน้า และสิ่งสำคัญที่ต้องปรับปรุงก็คือฟอร์มการเล่นในบ้านของพวกเขา
หากพวกเขาชนะในเกมวันอาทิตย์นี้ ได้ จะเป็นครั้งแรกของพวกเขาเลยในรอบ 10 เดือน ที่ชนะในบ้านได้ 2 นัดติดต่อกัน แต่มันก็มีโอกาสสูงที่พวกเขาจะพ่ายแพ้ และทำสถิติเป็นทีมที่แพ้ในบ้านฤดูกาลนี้มากที่สุด เทียบเท่ากับ นอริช และ เซาแธมป์ตัน ที่แพ้ในบ้านของตัวเอง ไปถึง 10 นัด
นอกจากนี้ เวสต์แฮม ยังต้องปรับปรุุง เวลาได้ประตูขึ้นนำ การเสมอในวันพุธที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ถือเป็นการเสียแต้มที่ 26 ของพวกเขาแล้ว ที่นำก่อน แต่เก็บชัยชนะไม่ได้ ในฤดูกาลนี้ หากพวกเขาสามารถรักษาสกอร์ขึ้นนำได้ พวกเขาอาจจะมีลุ้นถึงไปแชมเปี้ยนส์ลีก เลยด้วยซ้ำ แทนที่จะต้องมาหนีตกชั้น
ความพร้อมของทั้งสองทีม
เวสต์แฮม อาจจะไม่มี จาร์รอด โบเวน และ อารอน เครสเวลล์ ที่มีอาการบาดเจ็บเล็กน้อย จากเกมที่เสมอกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
อาการบาเจ็บอาจจะไม่หนักมาก แต่มอยส์ ก็ไม่น่าเสี่ยงในการส่งคนที่ไม่เต็มร้อยลงสนาม
อังเดรย์ ยาร์โมเลนโก้, เฟลิเป้ แอนเดอร์สัน และ มานูเอล ลานซินี น่าจะมีโอกาสเป็นตัวจริงในเกมนี้ แทนที่ของ โบเวน ที่ไม่พร้อม แต่ มอยส์ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงทีมทั้งหมดด
มิคาอิล อันโตนิโอ ถือเป็นนักเตะที่ทำประตูมากที่สุด ถึง 8 ประตู ในช่วงรีสตาร์ทกลับมา มีเพียงแค่ ราฮีม สเตอร์ลิงที่ยิงเท่ากับเขาในช่วงเวลาเดียวกัน
ขณะที่ โธมัส ซูเซค ยังอนู่ในฟอร์มที่ดี และน่าจะพร้อมที่จะออกสตาร์ทเป็นตัวจริง ประเดิมการย้ายมาร่วมทีมแบบถาวร ขณะที่ เดแคลน ไรซ์ อาจจะลงสนามเป็นนัดสุดท้ายให้กับ เวสต์แฮม หากดูจากข่าวว่าเขามีโอกาสสูงที่จะย้ายออกไปในช่วงซัมเมอร์นี้
วิลล่า เองก็จะไม่มี อาห์เหม็ด เอล โมฮามาดี้ ที่มีอาการเจ็บที่แฮมสตริง นั่นหมายความว่า เฟรเดริค กิลเบิร์ต น่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมีนาคม
นีล เทย์เลอร์ อาจจะได้กลับมาหลังมีปัญหาที่แฮมสตริง แต่ เวสลีย์, ทอม ฮีตัน, บียอร์น เอนเกลส์ น่าจะยังไม่พร้อม
เทรเซเกต์ น่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงอีกครั้ง หลังยิงไปแล้ว 3 ประตู ใน 3 เกมหลังสุดของเขา ในขณะเดียวกัน เกมนี้อาจจะเป็นเกมสุดท้ายของ กัปตันตัวหลัก และลูกหม้อของพวกเขา อย่าง แจ๊ค กรีลิช
11 ตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม ของเวสต์แฮม
ฟาเบียนสกี้, จอห์นสัน, ดิย็อป, อ็อกบอนนา, มาซัวกู, ไรซ์, ซูเซ็ค, ยาร์โมเลนโก้, โนเบิ้ล, ฟอร์นาลส์, อันโตนิโอ
11 ตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนามของ แอสตัน วิลล่า
เรน่า, กิลเบิร์ต, คอนซา, มิงก์ส, ทาร์เกตต์, แม็คกินน์, ลูอิซ, ฮูริเฮน, เทรเซเกต์, ซามัตต้า, กรีลิช
คาดการณ์ผล เวสต์แฮม แพ้ แอสตัน วิลล่า 1-2
ถ้าเป็นเกมปกติ เราคงคาดเดาว่า เวสต์แฮม น่าจะเป็นฝ่ายเอาชนะได้ แต่ในเกมนัดสุดท้าย มันยากที่จะคาดเดาผลสกอร์ และมันเกมนี้ วิลล่า ทีมเยือนต้องการผลสกอร์ เพื่อช่วยให้พวกเขารอดพ้นจากการตกชั้น
ทีมของสมิธ จะต้องพยายามเน้นเกมรับที่มีปัญหาพอสมควร แต่ต้องพยายามขับเคลื่อนไปด้วยกัน และเราคาดว่า เป็นไปได้ ที่พวกเขาจะได้รางวัลในการอยุ่พรีเมียร์ลีกต่อไป จากผลที่พวกเขาทำมาในช่วงก่อนหน้านี้
ยูโร-2020
-
ยูโร 2020
/ 3 ปี ที่แล้ว‘เคียร์’ แจงเรื่อง ‘อีริคเซน’ นึกถึงเกือบทุกวัน – กลายเป็นส่วนหนึ่งของตนเอง
เซ็นเตอร์แบ็คทีมชาติเดนมาร์ก บอกว่าเหตุการณ์เพื่อนร่วมทีมหัวใจวายกลายเป็นส่วนหนึ่งของตน
โดย mxxn