ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก นัดที่ 15 ที่เอมิเรตส์ สเตเดียม อาร์เซนอล ทีมอันดับ 15 เปิดบ้านพบกับ เชลซี ทีมอันดับ 5
ฟอร์มช่วงหลัง ของปืนใหญ่ไม่ดีเท่าไหร่ โดยเฉพาะในลีกที่ไม่ชนะใครมา 7 นัดติด ส่วนเชลซี ก็เพิ่งปลดล็อคชัยชนะมา หลังสะดุดมาสามนัด
เกมนี้ปืนใหญ่ขาดตัวหลักเพียบ ทั้งในส่วนของ ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง กัปตันทีมที่เจ็บ, วิลเลียนที่ป่วยเป็นไข้ รวมถึง กาเบรียล ที่ไปสัมผัสกับผู้ติดเชื้อโควิด และต้องกักตัว แต่ได้กาเบรียล มาร์ติเนลลี หายเจ็บพร้อมกลับมาลงสนาม ขณะที่ สิงห์บลู วาง แทมมี อบราฮัม ที่เพิ่งยิงมาสองลูกเป็นตัวจริง โดยมี ติโม แวร์เนอร์ และ คริสเตียน พูลิซิช ขนาบข้าง
นาที 33 อาร์เซนอล มาได้จุดโทษ จากจังหวะที่ รีซ เจมส์ ไปทำฟาวล์ คีแรน เทียร์นีย์ และเป็น อเล็กซองเดร ลากาแซตต์ ที่ยิงเข้าไปให้ ปืนใหญ่นำก่อน 1-0
เท่านั้นไม่พอนาที 44 อาร์เซนอล มาได้ฟรีคิกและเป็น กรานิต ชาก้า ที่ปั่นด้วยซ้ายเข้าไปให้ ปืนใหญ่นำห่างเป็น 2-0 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลังนาที 56 อาร์เซนอล มาได้ประตูนำห่างจากจังหวะที่ บูกาโย ซาก้า ตักด้วยขวาบอลย้อยเสียบตาข่ายเข้าไปให้สกอร์ขยับไปเป็น 3-0
ช่วงเวลาที่เหลือเชลซี พยายามบุกอย่างหนัก และก็มาได้ประตูตีไข่แตกจากแทมมี อบราฮัม ในนาที 85
นอกจากนี้ช่วงทดเจ็บ เชลซี มาได้จุดโทษ แต่จอร์จินโญ ยิงพลาดและจบเกม อาร์เซนอล เอาชนะ เชลซี ไป 3-1 มีเพิ่มเป็น 17 คะแนน ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 14 ส่วนเชลซี ตกมาอยูที่ 6 ชนะแค่เกมเดียวจาก 5 นัดหลังสุด
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่ลงสนาม
อาร์เซน่อล : แบรนด์ เลโน่ (GK), เฮคตอร์ เบเยริน, ร็อบ โฮลดิ้ง, พาโบล มารี, คีแรน เทียร์นี่ย์, โมฮาเหม็ด เอลเนนี่, กรานิต ชาก้า, บูคาโย่ ซาก้า, เอมิล สมิธ โรว์, กาเบรียล มาร์ติเนลลี่, อเลซ็องเดร์ ลากาแซตต์
เชลซี : เอดูอาร์ เมนดี้ (GK), รีซ เจมส์, เคิร์ท ซูม่า, ติอาโก้ ซิลวา, เบน ชิลเวลล์, มาเตโอ โควาซิช, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, เมสัน เมาท์, คริสเตียน พูลิซิช, แทมมี่ อบราฮัม, ติโม แวร์เนอร์