ติดต่อเรา
TH Ufabet TH Joker Free Spins Slotxo 3388 Reload 8%
พรีวิว : โค้งสุดท้ายพรีเมียร์ลีก สิงห์จะหลุด, ปืนไก่ใครจะได้ชูมือ พรีเมียร์ลีกอังกฤษ

พรีเมียร์ลีกอังกฤษ

พรีวิว : โค้งสุดท้ายพรีเมียร์ลีก สิงห์จะหลุด, ปืนไก่ใครจะได้ชูมือ

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกดำเนินมาถึงนัดที่ 35 แม้แชมป์จะตัดสินไปแล้วแต่การลุ้นพื้นที่ท็อปโฟร์ ยังคงสนุกจนน่าจะดำเนินกันไปจนถึงนัดสุดท้าย

พรีวิว : โค้งสุดท้ายพรีเมียร์ลีก สิงห์จะหลุด, ปืนไก่ใครจะได้ชูมือ

เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด พบ เชลซี

เชลซี ต้องบุกไปเยือน บรามอลล์ เลน ของ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เพื่อขยับเข้าใกล้การคว้าสิทธิ์ไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล โดย 7 นัดหลังสุดพวกเขาชนะไป 6 นัด

อย่างไรก็ตามก่อนที่ดาบคู่จะต้อนรับการมาเยือนของสิงห์บลู ทีมจากยอร์คเชียร์ ไม่แพ้ใครมาแล้ว 3 นัดติดต่อกัน และมีแต้มตามหลังวูล์ฟแฮมปตัน วันเดอเรอร์ส ทีมอันดับ 6 เพียงแค่แต้มเดียวเท่านั้น

หลังการรีสตาร์ท เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ถือเป็นหนึ่งในสโมสร ที่ต้องใช้เวลาพอสมควรในการปรับตัวกับสภาพแวดล้อมที่แตกต่างไปจากเดิม และดูเหมือนโมเมนตัมของพวกเขาจะเสียไปหลังการพักเบรค อย่างไรก็ตาม ดาบคู่นั้นทำได้ยอดเยี่ยมมากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังเปิดบ้านเอาชนะ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ส รวมถึง วูล์ฟแฮมป์ตัน และบุกไปเสมอเบิร์นลีย์ มา 1-1

ผลการแข่งขัน 3 นัดดังกล่าวของพวกเขา ส่งผลต่อการลุ้นไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกโดยตรง และถือเป็นการแย่งชิงสิทธิ์ไปเล่นยูโรป้า ลีก และทำให้ทีมของ คริส วิลเดอร์ มีเป้าหมายที่จะจบท็อป 6 ให้ได้

แม้การเผชิญหน้ากับทีมที่กำลังลุ้นไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีก อย่างเชลซี จะเป็นบททดสอบที่ยาก แต่พวกเขาก็มั่นใจขึ้นเล็กน้อยหลังนัดล่าสุดพวกเขาเอาชนะวูล์ฟ ที่กำลังไล่ตามแมนฯยู ในนาทีสุดท้าย และน่าจะทำให้ บอสใหญ่ของสิงห์บลู อย่างแฟรงค์ แลมพาร์ด กังวลในการจัดตัวพอสมควร ว่าจะต้องรับมือแบบไหน

แม้เกมล่าสุด พวกเขาจะชนะคริสตัล พาเลซ มา 3-2 เมื่อคืนวันอังคาร แต่ก็ได้ เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า ช่วยเซฟชีวิตไว้ได้เช่นเดียวกับ เคิร์ต ซูมา ที่ทำได้ดีมาก

ในขณะที่แลมพาร์โ ทำผลงานได้น่าประทับใจและผ่อนคลายระดับหนึ่ง แต่ทีมของเขาก็ยังต้องสู้ไปจนจบ เพราะมันมีโอกาสที่พวกเขาจะหลุดโค้งอยู่พอสมควร

ตลอดช่วงที่ผ่านมาของฤดูกาลนี้ แลมพาร์ด มักจะใช้ วิเลียน และ คริสเตียน พูลิซิช ที่ทำได้ดีนับตั้งแต่รีสตาร์ทกลับมา

โดยวิลเลียน ทำไป 4 ประตู พร้อมแอสซิสต์อีก 3 ครั้ง ขณะที่ พูลิซิช ก็ทำประตูได้ในเกมที่เจอกับ แอสตัน วิลล่า, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ พาเลซ

พรีวิว : โค้งสุดท้ายพรีเมียร์ลีก สิงห์จะหลุด, ปืนไก่ใครจะได้ชูมือ พรีเมียร์ลีกอังกฤษ

ความพร้อมของทั้ง 2 ทีม

จอร์จินโญ คาดว่าจะถูกส่งลงสนามเป็นตัวจริงอีกครั้ง หลัง บิลลี กิลมัวร์ มีอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า

หากแลมพาร์ด ยึดติดกับระบบ 4-3-3 นั่นแปลว่าเขาน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเพียงแค่ตำแหน่งเดียว อย่างไรก็ตาม ก็มีความเป็นไปได้ ที่เขาอาจจะเปลี่ยนในตำแหน่งแบ็คซ้าย โดย มาร์กอส อลอนโซ น่าจะเสียตำแหน่งในเกมนี้ โดย เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า น่าจะถูกส่งไปเล่นในตำแหน่งดังกล่าวแทนหลังเป็นกองหลังตัวกลางมาในเกมล่าสุด ส่วน เอ็นโกโล่ ก็องเต้ และ มาเตโอ โควาซิช ใกลจะหายจากอาการบาดเจ็บที่ เอ็นร้อยหวายและข้อเท้ากลับมาแล้ว

ด้าน เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เกมนี้ไม่น่าจะมี โอลิเวอร์ แม็คเบอร์นี ที่ถูกเปลี่ยนตัวออกในเกมที่พบวูล์ฟ ในช่วงช่วงต้นครึ่งหลัง และคาดว่า ลิยส์ มุสเซต์ น่าจะได้โอกาสแทน โดยจะเล่นร่วมกับ จอห์น ลุนด์สตราม ที่เป้นตัวเลือกก่อน เบน ออสบอร์น

คาดการณ์ 11 ตัวจริง เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด

เฮนเดอร์สัน, บาแชม, อีแกน, โอคอนเนลล์, บัลด็อค, เบอร์เก้, นอร์วูด, ลุนด์สตราม, สตีเฟนส์, แม็คโกลดริค, มุสเซต

คาดการณ์ 11 ตัวจริง เชลซี

อาร์ริซาบาลาก้า, เจมส์, ซูมา, คริสเตนเซน, อัซปิลิกวยต้า, บาร์คลีย์, จอร์จินโญ, เมาท, วิลเลียน, ชิรูด์, พูลิซิช

คาดการณ์ผล เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เสมอ เชลซี 2-2

เกมนี้ ด้วยฟอร์มของเชลซี คาดว่าจะมีประตูเกิดขึ้นมากมาย และสกอร์ดังกล่าวน่าจะมีความเป็นไปได้มากที่สุด ซึ่งทีมเจ้าบ้านก็กำลังอยู่ในฟอร์มที่ดี โดยเฉพาะการเล่นในบ้านช่วงโค้งสุดท้าย

ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ส พบ อาร์เซนอล

สเปอร์ส จะต้องพบกับ อาร์เซนอล ในวันอาทิตย์นี้ ซึ่งถือเป็นเกมดาร์บี้ ที่สำคัญที่สุดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ในการเจอกันเองของสองทีมจากลอนดอนเหนือ

ทั้ง 2 ทีมต่างมีการเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีมระหว่างฤดูกาล หลัง เมาริซิโอ โปเช็ตติโน และ อูไน เอเมรี ถูกไล่ออกไปในช่วงปลายปีก่อน และเป็นโชเซ่ มูรินโญ และ มิเกล อาร์เตต้า ที่มาคุมทีมแทน

ทั้งสองทีมสูสีมาก เพราะในฤดูกาลนี้ ทั้งคู่ถือว่าไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไหร่ เพราะทั้งสเปอร์ส และปืนใหญ่ ต่างต้องการจบอันดับที่สูงที่สุด และยังคงแอบหวังเล็กๆในการไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกให้ได้

เกมพรีเมียร์ลีก นัดนี้จึงเป็นเกมที่พลาดไม่ได้สำหรับผู้จัดการทีมทั้ง 2 ทีม เนื่องจากความพ่ายแพ้ อาจจะทำให้อีกหนึ่งทีม อาจจะไม่ได้เล่นฟุตบอลยุโรปเป็นเวลา 1 ปี และทั้งสองทีมต่างก็กำลังประสบปัญหาทางการเงิน

พรีวิว : โค้งสุดท้ายพรีเมียร์ลีก สิงห์จะหลุด, ปืนไก่ใครจะได้ชูมือ พรีเมียร์ลีกอังกฤษ

ความพร้อมของทั้ง 2 ทีม

สเปอร์ส จะไม่มี เอริค ดายเออร์ ที่โดนแบน 4 นัด หลังไปมีปัญหากับแฟนบอลในเกมเอฟเอ คัพ ในเกมที่สเปอร์ส พบกับ นอริช

ฮวน ฟอยต์ และ จาเปต แทนกังก้า ต่างก็มีอาการบาดเจ็บ สร้างความปวดหัวให้กับ มูรินโญ เป็นอย่างมากในการจัดการตำแหน่งแนวรับ

ขณะที่อาร์เซนอล พาโบล มารี (ข้อเท้า), คาลัม แชมเบอร์ส, แบรนด์ เลโน และ กาเบรียล มาร์ติเนลลี ต่างมีปัญหาที่หัวเข่าทั้งหมดและยังไม่พร้อม

เมซุต โอซิลที่เจ็บที่หลัง และหายไปพร้อมกับอาการบาดเจ็บ อาจจะกลับมาเป็นตัวเลือกอีกครั้ง ขณะที่ มัตเตโอ เก็นดูซี ยังไม่อยู่ในทีมหลังมีปัญหาเรื่องวินัย

ขณะเดียวกัน อาร์เซนอล จะยังไม่มีเอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ที่โดนใบแดงในเกมกับ เลสเตอร์ แต่กองหน้ารายอื่นๆ ยังคงพร้อมใช้งาน

คาดการณ์ 11 ตัวจริง ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ส

โยริส, ออริเยร์, อัลเดอร์ไวเรลด์, ซานเชซ, เดวีส์, ซิสโซโก้, วิงค์ส, โล เซลโซ, เบิร์กไวจ์น, เคน, ซน

คาดการณ์ 11 ตัวจริง อาร์เซนอล

มาร์ติเนซ, มุสตาฟี, ลุยซ์, โคลาซินัช, เบเยริน, เซบาญอส, ชาก้า, เธียร์นีย์, ซาก้า, ลากาแซตต์, โอบาเมยอง

คาดการณ์ผล ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ส เสมอ อาร์เซนอล 2-2

มันควรต้องมองว่าเกมนี้ เป็นเกมที่ทั้งฝ่ายต้องรอบคอบ เพราะนี่เป็นเกมที่สำคัญ มันขึ้นอยู่กับว่า อาร์เตต้า จะสามารถเอาชนะ มูรินโญ ได้หรือไม่ และใครจะโจมตีจุดอ่อนของฝ่ายตรงข้ามได้มากกว่ากัน โดยลอนดอน ดาร์บี้ แมตช์ ทั้ง 55 ครั้งในพรีเมียร์ลีก อาร์เซนอล ชนะไป 20 ครั้ง ส่วนสเปอร์สชนะไป 12 ครั้ง ส่วนอีก 23 ครั้งจบลงด้วยการเสมอกัน

อาร์เซนอล ไม่แพ้ใครในการพบกัน 3 ครั้งหลังสุดในลีก ซึ่งเมื่อเดือนกันยายนปีก่อน ทั้งสองทีมเสมอกันไป 2-2 ที่เอมิเรตส์ สเตเดียม

และด้วยความเคารพต่อผลสกอร์ที่ผ่านมานับตั้งแต่ปี 1909 อาร์เซนอล ชนะไป 82 ครั้ง เสมอ 53 ครั้ง และสเปอร์ส ชนะ 64 ครั้ง

ลิเวอร์พูล พบกับ เบิร์นลีย์

เมื่อพวกเขาต้องเปิดรังแอนฟิลด์ รับการมาเยือน เบิร์นลีย์ ลิเวอร์พูล กำลังมองไปที่การทำแต้มสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก หงส์แดงนั้น สามารถคว้าแชมป์ลีกมาครองเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี ตั้งแต่ตอนที่เหลือโปรแกรมการแข่งขันอีก 7 นัด และตอนนนี้พวกเขาต้องการอีก 9 แต้มจาก 4 เกมที่เหลือ เพื่อทำลายสถิติ 100 แต้มที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำไว้เมื่อฤดูกาล 2017-18

ขณะที่เบิร์นลีย์ มาเยือน เมอร์ซีย์ไซด์ ด้วยฟอร์มที่ดี หลังชนะมา 3 ใน 4 เกมหลังสุดของพรีเมียร์ลีก เดอะ คลาเรตส์ ถือว่ามีโอกาสที่จะไปเล่นฟุตบอลยุโรปในฤดูกาลหน้า

ในทางกลับกัน ฟอร์มของลิเวอร์พูล ในช่วงหลังก็ไม่ได้ดีที่สุด แต่พวกเขาก็กลับมาได้หลังแพ้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-4 แต่พวกเขาก็เอาชนะแอสตัน วิลล่า และ ไบร์ทตันได้

ทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ชนะในบ้านมา 17 เกมแล้วในฤดูกาลนี้ และอาจจะกลายเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษ ที่จะเอาชนะในบ้านของตัวเองได้ทุกนัดใน 1 ฤดูกาล

พรีวิว : โค้งสุดท้ายพรีเมียร์ลีก สิงห์จะหลุด, ปืนไก่ใครจะได้ชูมือ พรีเมียร์ลีกอังกฤษ

ความพร้อมของทั้ง 2 ทีม

จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ต้องถูกเปลี่ยนตัวออกก่อนที่เกมจะจบ ในนัดที่พบกับ ไบร์ทตัน หลังมีอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า และไม่น่าจะพร้อมสำหรับเกมนี้ โดยคล็อปป์ บอกว่ากัปตันทีมลิเวอร์พูล อาจจะต้องพักประมาณ 2-3 สัปดาห์ และมันจะส่งผลอย่างมากต่อทีมแชมป์พรีเมียร์ลีก

การขาดกองกลางชาวอังกฤษ น่าจะทำให้ฟาบินโญ ได้โอกาสเป็นตัวจริง ประสานงานกับ จินี ไวจ์นัลดุม และ นาบี เกอิต้า ในแผงกองกลาง ซาดิโอ มาเน่ ได้พักมาในเกมล่าสุด และคิดว่าเกมนี้น่าจะได้กลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง

แอนดี้ โรเบิร์ตสัน น่าจะแย่งตำแหน่งเนโก้ วิลเลียมส์ ในขณะที่เดยาน ลอฟเรน และ เจมส์ มิลเนอร์ ก็มีโอกาสเป็นตัวจริงเช่นกัน

คาดการณ์ 11 ตัวจริง ลิเวอร์พูล

อลิสซอน เบคเกอร์, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, โจ โกเมซ, เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน, ฟาบินโญ, นาบี เกอิต้า, จินิ ไวจ์นัลดุม, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน, ซาดิโอ มาเน่

คาดการณ์ 11 ตัวจริง เบิร์นลีย์

นิค โป๊ป, ฟิล บาร์ดสลีย์, เจมส์ ทาร์โคสกี้, เควิน ลอง, ชาร์ลี เทย์เลอร์, ดไวท์ แม็คนีล, แอชลีย์ เวสต์วูด, จอช บราว์นฮิลล์, โจฮันน์เบิร์ก กุดมุนด์สสัน, คริส วูด, เจย์ โรดริเกซ

คาดการณ์ผล ลิเวอร์พูล ชนะ เบิร์นลีย์ 2-0

ในฤดูกาลนี้ ลิเวอร์พูล ชนะทุกนัดในบ้านของตัวเอง และไม่แพ้ศึกพรีเมียร์ลีก ในแอนิลด์ เลย นับตั้งแต่เดือนเมษายน 2017

โดยนับตั้งแต่รีสตาร์ท คล็อปป์ และลูกทีมก็ยังคงคว้าชัยชนะในบ้าน 2 นัดที่ผ่านมา ด้วยยิงไป 6 ประตู และไม่เสียประตูเลย

แชมป์พรีเมียร์ลีก น่าจะเก็บชัยชนะอีกครั้งและขยับเข้าใกล้สถิติต่อไป

ยูโร-2020

อ่านเพิ่มเติมใน พรีเมียร์ลีกอังกฤษ