ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันที่ 19 มิ.ย. “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกไปเยือน “ไก่เดือยทอง” สเปอร์ส ที่ทอตแน่ม ฮอตสเปอร์ สเตเดี้ยม เกมนี้เจ้าบ้านของกุนซือ โจเซ่ มูรินโญ่ วาง 3 ประสาน เอริค ลาเมล่า, สตีเว่น เบิร์กไวจ์น และ แฮร์รี่ เคน ยืนค้ำในแดนหน้า ส่วนทีมเยือนของกุนซือ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ตัดสินใจดร็อป ปอล ป๊อกบา เป็นตัวสำรอง แต่ให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ดาวรุ่งที่เจ็บไปนานกลับมาช่วยแนวรุก
ในช่วงครึ่งแรก “ไก่เดือยทอง” เป็นฝ่ายทำได้ดีกว่า และมาได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจาก สตีเว่น เบิร์กไวจ์น ลากบอลตะลุยเดี่ยวเข้าไปซัดตุงข่ายในนาทีที่ 27 หลังจากนั้นทีมเยือนเริ่มเปิดเกมรุกสู้ แต่ยังเจาะแนวรับเจ้าบ้านไม่ได้ จบ 45 นาทีแรก สเปอร์ส เป็นฝ่ายขึ้นนำ 1-0 เข้าสู่ครึ่งหลัง “ปีศาจแดง” เริ่มต่อเกมกันได้แล้ว และเปลี่ยนตัว ปอล ป๊อกบา ลงไปช่วยเติมเกมจากแดนกลางด้วย ก่อนจะมาได้ประตูตีเจ๊าในช่วงท้ายเกมจากจังหวะที่ เอริก ไดเออร์ พลาดสกัด ป๊อกบา ล้มลงในกรอบเขตโทษ และเป็น บรูโน่ แฟร์นันเดส สังหารลูกจุดโทษเข้าไปในนาทีที่ 81
หมดเวลาการแข่งขัน เสมอ 1-1 แบ่งกันไปทีมละหนึ่งแต้ม ทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รักษาสถิติไร้พ่ายตั้งแต่ช่วงก่อนพักหนีโควิด-19 ได้เป็นเกมที่ 12 ติดต่อกัน แต่ยังอยู่อันดับ 5 แข่ง 30 นัด มี 46 แต้ม ชวดแซง “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ขึ้นไปรั้งอันดับ 4 ในกลุ่ม “ท็อปโฟร์” ที่จะได้สิทธิ์ไปเตะยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เพราะตามหลังอยู่ 2 แต้ม ส่วน สเปอร์ส ไม่พบกับชัยชนะจากการลงสนามในทุกรายการเป็นนัดที่ 7 แต่อยู่อันดับ 8 แข่ง 30 นัด มี 42 คะแนน
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
นอริช แพ้ เซาแธมป์ตัน 0-3
สเปอร์ส เสมอ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-1