ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันที่ 2 ก.ค. “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ยกพลบุกไปเยือน “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมรองจ่าฝูง ที่อิติฮัด สเตเดี้ยม เกมนี้เจ้าบ้านของกุนซือ “เป๊ป” โจเซฟ กวาร์ดิโอล่า ตัดสินใจส่งดาวดังเป็นตัวจริงหลายคนเลย ไม่ว่าจะเป็น เควิน เดอ บรอยน์, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง รวมถึง กาเบรียล เชซุส และส่งให้ลูกทีมตั้งแถวยืนปรบมือเพื่อเป็นเกียรติให้แชมป์ฤดูกาลนี้ในช่วงเดินลงสู่สนามด้วย ส่วนทีมเยือนของกุนซือ เจอร์เกน คลอปป์ ยังคงจัดผู้เล่นชุดใหญ่ นำทัพโดย 3 ประสาน ซาดิโอ มาเน่, โมฮาเม็ด ซาล่าห์ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่

ในช่วงครึ่งแรก “หงส์แดง” เล่นแบบขาดความมุ่งมั่นอย่างเห็นได้ชัด จึงเป็นทางให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นฝ่ายวิ่งไล่ขยี้ และจัดการซัดขึ้นนำ 3 ประตูรวดไปก่อนจาก เควิน เดอ บรอยน์ จุดโทษในนาทีที่ 25, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ในนาทีที่ 35, ฟิล โฟเด้น ในนาทีที่ 45 จบครึ่งแรก เจ้าบ้านนำห่าง 3-0 เข้าสู่ครึ่งหลัง “เรือใบสีฟ้า” มาบวกเพิ่มได้อีกหนึ่งเม็ดในนาทีที่ 66 จาก อเล็กซ์ ออกซ์เลด แชมเบอร์เลน กองกลางตัวสำรองที่ถูกเปลี่ยนตัวลงมาทำเข้าประตูตัวเอง

หมดเวลาการแข่งขัน ลิเวอร์พูล ยังคงรั้งจ่าฝูงแบบไม่มีอะไรให้ต้องลุ้นเหลือแค่รอเล่นให้จบโปรแกรม แข่ง 32 นัด มี 86 แต้มเท่าเดิม ส่วนแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นฝ่ายชนะ 4-0 ทำให้ “เรือใบสีฟ้า” ยังคงรั้งอันดับ 2 แข่ง 32 นัด มี 66 แต้ม ทิ้งห่าง เลสเตอร์ ทีมอันดับ 3 เพิ่มเป็น 11 คะแนน