เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม ที่ผ่านมา บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จำกัด, บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จำกัด และบริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อีสปอร์ต จำกัด ได้จัดงานเลี้ยงขอบคุณผู้สนับสนุน และขอบคุณสื่อมวลชน ภายใต้ชื่องาน “BURIRAM UNITED AS ONE” เพื่อแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในการต่อสู้วิกฤตต่างๆ
นายใหญ่เครือบริษัทบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดเผยว่า “ก่อนอื่นในนามของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และในนามของพี่น้องชาวจังหวัดบุรีรัมย์ ต้องขอขอบคุณผู้มีเกียรติทุกท่านที่ยืนอยู่กับเราใน 1 ปีที่ผ่านมา แม้ว่าโลกทั้งโลกจะประสบภาวะโควิด-19 ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาเรื่องรายได้จากการท่องเที่ยว ความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน ทั้งโลกมีปัญหาอย่างที่ไม่เคยเจอกันมาก่อน ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ร่วมกันจับมือช่วยกันสนับสนุนเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน เพื่อช่วยกันป้องกันโควิด-19 ทำให้นักท่องเที่ยวเชื่อมั่นในการป้องกันของจังหวัดบุรีรัมย์ และยังเดินทางมาท่องเที่ยวอยู่ แม้จะไม่มากเหมือนเดิม แต่ก็ยังสามารถเติมลมหายใจให้พี่น้องบุรีรัมย์ยังเดินไปได้อยู่”
“หากพูดถึง 3 หน่วยงานของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ต้องบอกว่าหน่วยงานแรกที่สอบตกคือ ฟุตบอล ที่ผมดูแลอยู่โดยตรง ปีนี้ทำแฟนบอลเสียใจ ส่วนตัวผมเองก็กินไม่ได้นอนไม่หลับ ถ้าวัดเคพีไอ คงต้องถูกหักเงินเดือนมากที่สุด”
นอกจากนี้ “ลุงเน” ยังเปิดเผยถึงกิจกรรมต่างๆ ภายในปีหน้าว่า “เริ่มแรกของปี งานวันเด็ก เราจัดงานโดยใช้สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จัดเป็นแรลลี่วอร์คในสนาม ภายในธีมงาน “ลูกหลานรัชกาลที่ 1” ทุกสเตชั่นจะเป็นเรื่องราวของพระมหากรุณาธิคุณพระบรมวงศานุวงศ์ จากนั้น 15-17 ม.ค. จะเป็นงาน “กัญชา กัญชง 360 องศา” เพื่อแก้ปัญหาปากท้องพี่น้องประชาชน ต่อจากนั้นจะเป็น “บุรีรัมย์มาราธอน” ในมาตรฐานระดับโกลด์ของโลก นี่เป็นบางส่วนที่ผมต้องรบกวนเชิญทุกท่านมาอัปเดตเร็วกว่าคนอื่นเพื่อเป็นการเตรียมตัวในปีหน้า”
“เราตั้งเป้าหมายของเราว่าสิ่งหนึ่งที่อยากทำให้สังคมได้เห็นนิวนอร์มอลสำหรับบุรีรัมย์ ปิดเมืองก่อนเขา เปิดเมืองหลังเขา แต่วันนี้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อยากให้ทุกคนรู้ว่าต้องปรับตัวกับเศรษฐกิจ ในยุคโควิด-19 อย่างไร ต้องเรียนรู้อย่างระวัง ไม่ใช่ตื่นกลัว แม้ว่าบุรีรัมย์ จะเป็นส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่งของโลก แต่ถ้าเราทำให้เห็นว่า การใช้ชีวิตแบบปกติอย่างระวังคุณจะจัดคอนเสิร์ตก็ได้ จัดอีเวนท์ใหญ่แค่ไหนก็ได้ คุณจะทำอะไรมีผู้คนเป็นหมื่น เป็นแสนเท่าไหร่ก็ได้ ถ้าคุณมีมาตรการเฝ้าระวังแบบถูกสุขลักษณะ ถ้าผมผ่านมกราคมไปได้ตามมาตรฐานบุรีรัมย์โมเดล ผมเชื่อว่ามันจะเป็นคำตอบให้กับสังคมเห็นว่า ประเทศไทย คนไทย สามารถใช้ชีวิตแบบปกติได้ถ้ารู้เท่าทันโควิด-19 แล้วป้องกันตัวเองได้ มันจะทำให้ระบบเศรษฐกิจกลับมาได้ อันนี้คือความท้าทายของเราบุรีรัมย์ที่จะทำในเดือนมกราคม”
“สิ่งที่ผมคิดตอนนี้คือทำอย่างไรให้หุ้นส่วนชีวิตผมทั้งหมดขายของได้ เราอยู่ด้วยกันได้ อันนี้คือวิธีคิดของเราทำงานร่วมกันในฐานะพาร์ทเนอร์ ฉะนั้นอยากเรียนให้ทราบว่าเราจะต้องเดินไปด้วยกัน ผมเองต้องขอบคุณทุกท่านที่อยู่ด้วยกัน ผมสัญญาว่าไม่ว่าเรื่องที่อยู่ในสัญญา หรือไม่อยู่ในสัญญา อะไรที่เราจะดูแลและช่วยเหลือได้ ผมจะทำ ผมขอถือโอกาสนี้สวัสดีปีใหม่ ขอให้เดินทางปลอดภัย และชนะโควิด-19 ทุกท่านครับ”
